1 เมื่อจักรวาลนั้นได้ถูกสร้างขึ้น อัครทูตสวรรค์อูริเอลเฝ้ามองโลกที่พระองค์สร้าง ท่านตรัสว่า พวกท่านทั้งหลายจะเกิดมาไม่สามารถจำอะไรได้เลยว่า เราจะได้อยู่กับพระบิดาไหม ท่านรู้สึกอย่างไร ท่านเป็นอย่างไร เมื่ออยู่กับพระบิดา ไกลแสนไกลจากดาวนิบิรุ อ้อมระบบสุริยะโลกแห่งการเรียนรู้ การกระทำก็ไม่สามารถจำได้เลยว่า เมื่อไหร่จะได้เห็นพระบิดากับสวรรค์และมีอาการเช่นอย่างไร ได้รับการเลี้ยงดูกำหนดชะตาแบบใด อาการเป็นอย่างไรเมื่อท่านรู้ถึงการมีพ่อผู้ทรงเป็นพระเจ้าอันเที่ยงแท้ และท่านซื่อสัตย์หรือไม่ เพราะเป็นการกำหนดแผนการณ์ไว้ล่วงหน้า

2 องค์พระผู้เป็นเจ้าให้เรา ได้สร้าง จักรวาล ระบบสุริยะ ดวงดาว โลกของสิ่งมีชีวิตต่างๆ และพระองค์ทรงทำให้ดวงอาทิตย์มีแสงจ้าและดวงจันทร์มีแสงสะท้อน และทรงกำหนดให้มันมีทางโคจร เพื่อพวกท่านจะได้รู้จำนวนปีและการคำนวณ เอโลฮิม มิได้ทรงสร้างสิ่งเหล่านนั้น เว้นแต่ด้วยความจริง พระองค์ทรงจำแนกสัญญาณต่าง ๆ สำหรับหมู่ชนที่มีความรู้

3 พระเจ้าทรงนำสะเก็ดไฟไร้ควันนั้นมาสร้างเป็นเหล่าภูติเพื่อที่จะรับใช้ผู้หนึ่งในพื้นพิภพ พร้อมกับไอนํ้าที่ระเหยออกมาจากผิวนั้น พระองค์ได้ทรงสร้างเป็นทูตสวรรค์ พระองค์เห็นว่าดี จึงจงสร้างเป็นวิญญาณที่ปรนนิบัติแก่เราที่มีความคิดเป็นของเขาเองเหมือนกับเจ้าแห่งพื้นพิภพที่เราให้เขาเกิดจากดิน

4 และเราก็ได้เข้าไปในร่างกายมนุษย์เพศชายถูกสร้างพร้อมกับเพศหญิงทั้งสองร่าง คือชายกับหญิงที่เป็นวิญญาณ โดยทำสร้างจากฝุ่นผงคลีดินด้วยนํ้า สารคัดหลั่ง ฝนเลือด ที่ประกอบไปด้วยลูกอ๊อดนับล้าน กับก้อนสะเก็ดดาวสายฝน ที่มีลักษณะเหมือนหางที่ยาว ดังรากไม้ที่ลึกไม่มีที่สิ้นสุด หลอมด้วยไอร้อนจากใต้พิภพแกนหัวใจซึ่งเป็นใจกลางโลก ที่มีพลังงานเหมือนกับเตาหลอมที่พ้นไอนํ้าผ่านทางช่องว่าง ที่มีทะเลปกคลุม

5 ผืนแผ่นดินทั้งทวีปของโลก มีบางสิ่งสมบรูณ์ที่น่าพิศวง พระวิญญาณพระเจ้าสูงสุด ที่ไม่ได้เกี่ยวกับการงานของยาห์บาล์ จึงทรงสร้างเทวทูตจากแสงอาทิตย์จากกลุ่มก้อนพลังงานสว่างให้เป็นผู้ทำความดีเท่านั้นและเชื่อฟังคำสั่งของเราผู้เดียว พระวิญญาณคือผู้ได้มาเห็นสิ่งทั้งมวลในโลกไว้สำหรับพวกเจ้า ภายหลังได้ทรงมุ่งสู่ฟากฟ้า และได้ทำให้มันสมบูรณ์ขึ้นเป็นเจ็ดชั้นฟ้า และพระองค์นั้นได้ทรงรอบรู้ในทุกสิ่งทุกอย่าง พระวิญญาณบริสุทธิ์ผู้ทรงเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าสูงสุดที่ทุกชีวิตไม่สามารถรู้ทุกอย่างในจักรวาลได้คือ ความเมตตาสูงสุดที่ทุกจิตวิญญาณจะได้รับ จึงทรงแต่งตั้งพระบุตรของพระบิดา เยโฮวาห์ ยิเรห์ ซึ่งแปลว่า พระผู้ทรงจัดเตรียม และเป็นผู้ช่วยให้รอด พระนามของพระองค์จึงมีนามว่า เยซู พระผู้กอบกู้อาณาจักร 

6 และจงรำลึกถึงขณะที่พระวิญญาณได้ทรงตรัสแก่เทวทูตว่า แท้จริงข้าจะให้มีผู้แทนคนหนึ่ง ในพิภพ บรรดาเทวทูตได้ทูลขึ้นว่า พระองค์จะทรงให้มีขึ้นในพิภพซึ่งผู้ที่บ่อนทำลาย และก่อการนองเลือด ในพิภพกระนั้นหรือ ? ทั้ง ๆ ที่พวกข้าพระองค์ให้ความบริสุทธิ์ พร้อมด้วยการสรรเสริญพระองค์ และเทิดทูนความบริสุทธิ์ในพระองค์ พระองค์ตรัสว่า แท้จริงข้ารู้ยิ่งในสิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้ มนุษย์คู่แรกของโลกคือ อาดัมกับลิลิธ ถูกสร้างขึ้นมาจากดินเหมือนกัน

7 เมื่อทั้งสองได้มาพบกัน เขาจึงบอกแก่กันและกันว่า เราทั้งสองถูกสร้างมาจากดินด้วยกัน ทั้งสองได้ใช้ชีวิตร่วมกับสุขในสวนเอเดน ทั้งสองได้ทำคำมั่นสัญญาว่า ทั้งคู่จะแต่งงานและผนึกชั่วนิรันดร์ และจะให้กำเนิดผู้ที่เชื่อฟังพระบิดา เขาทั้งสอง ให้คำมั่นสัญญาและเป็นพยานต่อ เทพวาเลนไทน์

8 และจงรำลึกถึง ขณะที่พระวิญญาณได้กล่าวแก่เทวทูตว่า พวกเจ้าจงก้มกราบ แก่อาดัมเถิด แล้วพวกเขาก็นมัสการ นอกจากอิบลีส และโดยที่มันไม่ยอมเคารพเหมือนกับคนหนึ่งที่ไม่ยอมบริจาคพื้นที่ทะเลให้ พร้อมกับแสดงโอหังเหมือนกับเจ้านายผู้สร้างของมัน บุตรชายคนผู้หนึ่งที่ทำให้ประชาติตกตํ่าลง และมันจึงได้กลายเป็นผู้สิ้นสภาพจากพลเรือนสวรรค์ ( สัตว์เดรัจฉาน ) และพวกมันก็กลายเป็นสัมภเวสี

9 แต่ลิลิขก็ได้ผิด สัญญาและอ้างว่า ตนมีความเท่าเทียมกับชาย เพราะเธออ้างว่า ข้าพเจ้ากับอาดัมมีความเท่าเทียมกัน ในขณะทั้งสองใช้ชีวิตรวมสุขกันในสวนเอเดน ในขณะที่อาดัมกำลังจะมีอะไรกับเธอ นางจึงปฏิเสธสามีและบอกเลิกกับอาดัม นางจึงเดินหนีออกจากสวน เอเดน และหายไปในที่สุด เธอจึงหนีออกจากสวนเอเดน และไปพบกับสาวกของลูซิเฟอร์ จนเธอได้มอบอำนาจนี้ให้กับซาตานและได้รับการดลใจวิญญาณสมุนของลูซิเฟอร์

10 แต่อาดัมรักเขาเป็นพิเศษมากๆ จึงขอสู่มั่น ถ้าเธอมีเพศสัมพันธ์กับคนของเอลโลฮิม มันจะเป็นการนำความแช่งสาบไปสู่บรรดาผู้คนที่เธอได้ทำสัญญาหรือซาตานนับล้าน ที่หลงไหลในความงามของเธอ เหมือนกับการทำสัญญามอบอำนาจไว้ให้กับโอรสแห่งมหาสมุทรผู้หนึ่ง ชายคนนั้นได้รับการถูกสาบให้เป็นเหมือนกับก้อนดินไหลไปตามโคลนเมื่อถูกคลื่นซัด เพราะซาตานหัวหน้าทั้งหลายได้เลือกเธอไว้เป็นหนึ่งในสมาชิกสภาอธิปไตยฝ่ายสวรรค์ เหตุฉะนั้น ทะเลแห่งความสับสนอยู่เหนือนํ้าที่จะพยามอยู่เหนือความอ่อนโยนทั้งปวงของสายลม

11 อาดัมมีความรู้สึกที่หัวใจแตกดับ ได้ไปบอกเทพวาเลนไทน์ ให้ไปตามตัว นางแม่ลิลิข แต่เธอก็ปฏิเสธและบอกเลิกกับอาดัม และในที่สุด เทพวาเลนไทน์ ก็ถูกพวกกองทัพสาวกของมารจับและได้ประหารเขาคนนั้นเสียลงต่อหน้าพระเจ้า

12 ด้วยความชอกชำ หัวใจแตกสลาย อาดัมพยามจะฆ่าตัวตาย เพราะความละอายต่อตนและความสับสน ในขณะที่กำลังจะใช้ไม้ต่อกับเหล็กเพื่อล่อให้สายฟ้าลงมาผ่าตนเอง ทันในนั้น เทพแห่งสายฟ้าก็มาปรากฏ ตรัสว่า อาดัม อาดัม อย่าทำอย่างนั้น เพราะชีวิตเป็นของพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระเจ้าผู้สูงสุด ไม่ใช่ของตัวเองแต่อย่างใด เพราะหัวใจของเจ้าล้วนมาจากพระวิญญาณของพระองค์ทั้งสิ้น พระเยซูก็ได้ทรงรู้และเข้าใจความเจ็บปวดอย่างยิ่งของอาดัม เมื่อพระองค์ทรงเห็นอาดัมจะฆ่าตัวตาย แต่พระยาห์เวห์ได้ทรงส่งเทพแห่งเปลวเพลิงไปขัดขวาง และบังสายฟ้าที่จะผ่าลงกับร่างกายของอาดัม และได้ป้องกันชีวิตของอาดัมไว้ได้สำเร็จ บรรดาเทพทั้งสามองค์โดยมีหัวหน้าเหล่าทูตสวรรค์คือ คือ ฟินิกซ์ เลขาธิการของมีคาเอล

13 เทพจึงตรัสว่า ตามเรามา จงขึ้นไปยังที่นั่งของเรา เราจะพาเจ้าไป เพราะบรรดาสมุนของซาตานได้ลงมาที่โลกแล้ว พวกเขาเป็นวิญญาณที่ติดตามลูซิเฟอร์แห่งพระเจ้าเทียมเท็จ โอ้...นางลิลิธ น้องสาวของพี่ชายคนโตผู้แอบลักขโมยที่ใช้กุญแจแห่งสวนสวรรค์ในการเป็นผู้เปิดประตู เพื่อให้วิญญาณผู้ร้ายมาที่โลกในฐานะบุตรมนุษย์

14 ท่านจงกลับไปและรายงานต่อพระผู้ช่วยให้รอดในเหตุการณ์ที่สวนเอเดนว่า นางคือผู้ทรยศ ไม่อย่างนั้น บรรดาศักดิ์ผู้ดีของพระเยโฮวาห์จะถูกแปลสภาพ และจะไม่มีวันได้เห็นแสงสว่าง

15 พระเยซูก็ได้ทรงรู้และเข้าใจความเจ็บปวดอย่างยิ่งของอาดัม เมื่อพระองค์ทรงเห็นอาดัมจะฆ่าตัวตาย แต่พระเจ้าได้ทรงส่งเทพเจ้าแห่งสายฟ้าไปขัดขวาง และบังสายฟ้าที่จะผ่าลงที่ร่างกายของอาดัม และได้ปกป้องอาดัมไว้ได้สำเร็จ

16 เหตุการณ์นั้นก็ได้บังเกิดขึ้นคือ พระเยซูคริสต์ก็ได้ส่ง ทหารเทพ มีคาเอล พร้อมกับหน่วยลาดตระเวนทั้งสามผู้ที่มีชื่อว่า เซนอย แซนเซ่นอย และเซมางลอฟ ไปยังหุบเขาเปอร์โตริโก หน้านํ้าแห่งสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า จนได้พบกับลูกหลานของนางมากมาย เพราะเธอได้ทรยศสามี มีอะไรกับคนที่ไม่ใช่สามี แต่ปีศาจ จอมราชันย์ ผู้ปกครองเมืองหน้านํ้าแห่งสามเหลี่ยม เบอร์มิวด้า ได้ส่งทหารของเหล่าสาวกซาตาน เข้าปะทะกับทหารของมีคาเอล การต่อสู้ยืดเยื้อมาถึงระยะ 69 ชั่วโมง จนกองทัพของมีคาเอลได้รับชัยชนะ จับทหารของซาตาน และลิลิธ ด้วยเช่นกัน สงครามครั้งนี้ เป็นเหตุทำให้สัตว์ใหญ่ สัตว์เลื้อยคลานยักษ์ที่พระเจ้าทรงมอบไว้ให้กับมนุษย์ต้องหายไปจากโลก

17 และเหตุการณ์นี้ก็ได้บังเกิดขึ้น คือ เธอได้รับการช่วยเหลือจากสภาอธิปไตยฝ่ายสวรรค์ และเข้าสู่ที่ประทับของผู้ปกครองโลกที่โงเขลา ร่างกายของเธอได้รับการรักษาบาดแผลจากสงครามจากการโจมตีของพวกฝ่ายเทพมีคาเอล นี่เป็นเหตุที่ทำให้ ลิลิธหลบหนีจากการถูกจับกุมไปได้ และใช้เส้นทางของเกาะคิวบา เป็นทางหลบลี้ภัยจากการจับกุมของพวกกองทัพ ทูตสวรรค์มีคาเอล

18 มีเพียงลูกของนางเท่านั้นที่ถูกจับ บัดนี้ สุรเสียงจากพระวิญญาณได้ตรัสผ่านเหล่าเทพของมีคาเอล ให้ประหารลูกของนางเสียด้วยลูกบอลไฟจากท้องฟ้า และส่งวิญญาณของลูกๆของเธอไปยังบึงไฟนรก แม้แต่หนอนก็ไม่ตาย แต่นางนั้นก็ได้ทำให้วิญญาณของเจ้าปีศาจได้กลายเป็นมนุษย์ และพักอาศัยอยู่ที่ เกาะคิวบา ใจกลางห้วงลึกที่สุดของทะเลหน้านํ้าแห่งสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า บัดนี้ เรามีคาเอล ได้จับเจ้ามังกรสีคราม และสนทนาว่า ข้าแต่พระเยโฮวาห์กษัตริย์แห่งจักรวาล ผู้ทรงอำนาจแห่งทุกสรรพสิ่ง เราจะทำยังไงต่อ พระยาห์เวห์ตรัสว่า ให้ประหารเจ้า หัวหน้าราชาสัตว์ใหญ่ที่อยู่บนหลังของเจ้างูยักษ์ และเหวี่ยงพรรคพวกพ้องกับศพของมันลงไปที่ ณ. พื้นพิภพ จนกว่าเราจะประกาศราชอาณาจักรบนแผ่นดินโลก จนกว่าจะถึงวันสิ้นพิภพบนแผ่นดินโลก

19 อาดัมมีหัวใจที่สาหัส พระยาห์เวห์ตรัสว่า วิธีที่เราจะหาคนที่เหมาะสมให้กับเขา ทหารทั้งหลายจงฟัง พระองค์ทรงสั่งเหล่าทูตสวรรค์ มีคาเอล ให้ทรงส่งกองทัพเข้ามาอุ้มอาดัมสู่สวรรค์ชั้นฟ้า เมฆนับคณา ใกล้กับแผ่นดินของฟาแรน เหนือเส้นศูนย์สูตรของโลก มาที่เขตแดนที่พระเจ้าทรงกำหนด

20 บัดนี้ อาดัมได้รับการรักษาหัวใจ เมื่อเทพอุ้มอาดัมมาถึงต่อหน้าพระพักตร์ของพระเยโฮวาห์ พระผู้ช่วยให้รอดตรัสว่า ท่านผู้นี้จงหลับลึก จนกว่าข้าจะปลุกเจ้าขึ้นมาอีกครั้ง เพราะเรามีบางสิ่งให้เจ้า..

21 ทันใดนั้น พระบุตรผู้ทรงสร้างดินแดนหลังสุดขอบของโลก และได้ทรงแบ่งเขตแดนด้วยอันหนาวเหน็บไว้ปลายสุดปลายแผ่นดินโลกของผู้มีสัญญาครอบครองอาณาจักรภายในนั้น พระองค์ทรงตรัสว่า จงพาร่างกายของอาดัม ลงไปนะที่ ฟาแรน เราจะนำกระดูกของผู้นั้นมาสร้างเป็นมนุษย์เพศหญิง และเราจะมอบกุญแจให้ แม้เราจะสูญเสียกุญแจไปหนึ่งดอก เพราะกุญแจดอกสุดท้ายจะอยู่ในต้นไม้แห่งยักษ์พฤกษา บุตรมนุษย์แห่งโลกจะปฏิเสธชาวสวรรค์ที่เกิดจากสายเลือดของบุตรผู้ทรงปัญญา คนดีจะถูกล่อลวง ผู้ที่อยู่เบื้องบนจะลงมา ผู้หญิงจะไม่เอาผู้ชายที่ดี ผู้ชายที่ชั่วร้ายจะเอาสาวงามด้วยความเร้าร้อน เพื่อความอยากและความจองหอง มนุษย์จะคิดว่าสิ่งเหล่านี้คือคำสอนที่ถูกต้อง เพราะพวกเขาไม่ตั้งคำถาม แต่เราจะมอบพระวิญญาณแห่งการตื่นรู้ให้คนบางคน

22 เหตุการณ์นี้ก็ได้บังเกิดขึ้นคือ อาดัมถูกทำให้นอนหลับ ณ.สถานที่ ฟาแรน เพื่อที่จะเอาซี่โครงสองชิ้นส่วนมาตัดต่อ แยกเป็นแขนขา ส่วนตัวของผู้หญิง พร้อมกับเขียนการจารึกไว้ที่เส้นด้ายที่มีลักษณะสายใยพันกันเป็นเกลียวที่บิดโค้งงอ

23 และพระยาห์เวห์ตรัสกับ เทพผู้ช่วยว่า จงไปเอาดินที่ดีและทรายที่ทะเล ใจกลางระหว่างฟาแรน และดินเหนี่ยวที่อยู่สูงสุดบนยอดภูเขา ติดระหว่าง เมฆฝน ใกล้กลับทางนํ้าไหลที่เป็นนํ้าตก เราจะให้กำเนิดภรรยาของอาดัม เราจะเอาทั้งสองไปไว้ที่สวนเอเดน เราจะส่งอาดัมไป จากนั้นเธอจะเดินลงมาจากฟาแรน เพื่อพบกับผู้ชาย

24 บัดนี้ ทั้งสองก็ได้มาพบกันในสวนเอเดนอีกครั้ง นางมีชื่อว่า เอวา อาดัมจึงพูดกับเธอว่า นี่คือภรรยาของฉัน เธอมาจากร่างกายของเรา บัดนี้ จงยินดีเถิด ที่เราจะได้รับการผนึกชั่วนิรันดร์

25 ทั้งสองคน อาดัมกับเอวาจึงเดินทางออกสู่ ฟาแรน ไปยังดินแดนอิรัก สวนอุทยานบ้านหลังใหม่ที่พระผู้ช่วยให้รอดของเขาได้จัดเตรียมไว้ให้อย่างเงียบๆสงบของเขาทั้งสอง เอวาเชื่อฟังสามี และอดัมตั้งใจที่จะรักษากฎพระคำแห่งปัญญา และจะให้ทุกคนได้แต่งงานแบบอาดัม มีคู่พระพรเดียว

26 พระเจ้าตรัสว่า ในแผ่นดินโลกแห่งนี้ เจ้ากินผลไม้ได้ทุกต้นยกเว้น ต้นไม้แห่งความรู้ดีรู้ชั่ว ทั้งสองคนเลือกที่จะรับคำสั่งและปฏิบัติตามบทบัญญัติ

27 แม้ลูกของนางลิลิขจะโดนประหัดประหารแสนสาหัสในบึงไฟนรก บัดนี้ ได้มีบุตรของนางคนหนึ่งได้สาบานต่อเจ้านายของเขาว่า ข้าจะล่อลวงบุตรแห่งมนุษย์ทุกคนตั้งแต่ผู้ที่ได้เกิดมาไปจนถึงวันสิ้นพิภพและจนกระทั่งวันแห่งการตัดสิน

28 เมื่อทั้งสองเสด็จลงมาจาก ณ สถานที่ฟาแรน มุ่งสู่ดินแดนอิรัก เมื่อทั้งสองได้เข้ามาที่สวนเอเดน เอวาได้พูดกับอาดัมว่า ดิฉันได้ออกมาจากร่างกายของท่าน ดิฉันต้องเชื่อฟังท่าน และอยู่ภายใต้การบังคับบัญชาของท่านตลอดไป อาดัมจึงตรัสกับเอวาว่า นี่คือบ้านของเรา ส่วนเอเดน และเราจะแผ่ขยายอาณาจักรนี้ออกไป และเราจะมีลูกมากมายในราชอาณาจักร เพื่อพ่อของเราจะได้รับการสรรเสริญ คือ พระเยโฮวาห์ เอวาจึงตอบกลับว่า เอเมน ขอพลังอำนาจ รัศมีภาพของพระสิริ ความรุ่งโรจน์แห่งความรักของพระองค์ จงดำรงอยู่นิรันดร์กาล เอเมน

29 บัดนี้ ทั้งสองจึงแต่งงานกัน ที่พระวิหารฟาแรน เมื่อทั้งสองกลับมาที่ดินแดนอิรัก ทั้งสองมีความรู้สึกหิว ทั้งคู่ก็ได้เดินผ่านทางตรงหน้าต้นไม้ต้องห้าม

30 เหตุการณ์นี้ก็ได้บังเกิดขึ้นคือ ได้มีเทพหนึ่ง แปลงกลายเป็นทูตแห่งแสง มาหาพวกเขาและได้พูดว่า ถ้าเจ้ากินผลไม้นี้ เจ้าจะรู้จักดีและชั่ว และเป็นเหมือนกับพระเจ้า เอวาจึงโต้ตอบเจ้างูว่า พระเจ้าตรัสว่า เรากินผลไม้ได้ทุกต้น ยกเว้น ต้นไม้ผลแห่งรู้ดีรู้ชั่ว ถ้าพวกเรากิน เราก็จะตาย เจ้างูจึงพูดอีกว่า อะไรกันใครว่าเจ้าตาย เจ้าจะตาสว่าง ยังไงล่ะ ......

31 จากนั้น เมื่อทั้งสองได้กินผลไม้ต้องห้ามในสวนเอเดน หลังจากนั้น พระเจ้าก็ได้ทรงตระโดนเรียก อาดัม เอวา จากบนท้องฟ้า ว่าพวกเจ้าทั้งสองอยู่ทำอะไร อาดัมรู้สึกละอายจึงได้เอาใบมะดือมาปกปิด ร่างกายรวมถึง เอวา ทั้งสองจึงพูดกับพระเจ้าว่า พวกข้าพระองค์รู้สึกละอายต่อหน้าท่าน เลยเอาใบไม้มาปกปิด พระเจ้าตรัสว่า ใครบอกว่าเจ้า เปลือยกาย เจ้าได้กินผลไม้ที่เราห้ามมิใช่หรือไม่ แต่เอวาตอบว่าใช่ ข้าพระองค์ได้กินและมอบให้สามีของข้ากิน ตามที่งูได้บอกพวกเรา

32 พระเจ้าตรัสกับงูว่า คุณเป็นสัตว์ที่ประเสริฐ ทรงภูมิปัญญา เหตุใดจึงบอกพวกเขา เจ้ามาที่โลกก่อนเมื่อนั้นมิใช่หรือไม่ ดังนั้น เราจะให้เจ้ามุดไปตามพื้นดิน ไปตามหลุมอากาศ ไม่มีมือเท้า ณ บัดนี้เป็นต้นไป เจ้าหากินด้วยปากท้องคลานบนทรายตลอดทั้งชีวิตตลอดเป็นนิตย์ ผู้ใดมีร่างกายจะถูกตามล่าเผ่าทั้งเป็น บัดนี้เป็นต้นไป

33 พระเจ้าตรัสกับอาดัมกับเอวาว่า ส่วนพวกเจ้าทั้งสอง ที่ได้กินผลไม้ต้องห้าม เอวา เธอจะคลอดบุตรด้วยความเจ็บปวด อาดัม จะต้องทำงานหนักทั้งชีวิต เพื่อแรกกับการเลี้ยงชีพด้วยเงินตรา เพื่อหาเลี้ยงครอบครัว

34 บัดนี้ พระเจ้า ได้ตรัสกับทูตแห่งเปลวไฟองค์หนึ่ง ว่า จงทำลายต้นไม้ยักษ์ทิ้งเสีย อย่าให้ใครหนีออกไปหรืออย่าให้ผู้ใดเข้าไปที่นั่น เพราะนี่คืองานของเจ้า แล้วพระเจ้าทรงตรัสว่า “ดูสิ มนุษย์กลายเป็นเหมือนผู้หนึ่งในพวกเขาแล้ว โดยที่รู้ดีและรู้ชั่ว บัดนี้ อย่าปล่อยให้เขายื่นมือไปหยิบผลจากต้นไม้แห่งชีวิตของเขามากินด้วย แล้วมีอายุยืนชั่วนิรันดร์” กลายเป็นหนึ่งในนั้น

35 อาดัมจะพาภรรยา ไปหลบภัยที่ ฟาแรน แต่ประตูทางเข้าก็ปิดลงเสียด้วยเช่นกัน ทั้งสองก็ได้เห็นแสงสีนํ้าเงิน โพยพุ่งออกมาจากใต้ภูเขา ปีกได้กลางเหมือนนกอินทรี ขากำลังจะถูกพับเก็บ มีลักษณะเหมือนเท้าวัว กรงจักรได้หมุนเหมือนพายุ มีลมพัดแรง ภูเขาลูกนั้นก็ได้ลอยขึ้นสู่ท้องฟ้า มีแต่ทางทะเลทรายว่างเปล่า ที่ทั้งสองจะเดินไป ในทางที่เปรี่ยวปล่าว

36 พระเยโฮวาห์ ได้สร้างเสื้อคลุมให้กับอาดัมและเอวา และสร้างที่พักอาศัย บ้าน สระน้ำ มอบเข็มทิศนําทางสู่ผืนป่าอุดมสมบูรณ์ เพื่อทั้งสองจะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และอาดัมกับเอวาทั้งสองคนก็ได้มีอะไรกัน จนให้กำเนิดลูกหลานมากมายนับจากนี้

37 อาดัมก็ได้สิ้นชีวิต เมื่อมีอายุได้ถึงเก้าร้อยเก้าสิบเอ็ดปี และจากนั้นก็ตามด้วยการสิ้นชีวิตด้วยการจากลาโลกของเอวา

38 และเหตุการณ์นี้ก็ได้บังเกิดขึ้นคือ พระมารดาโซเฟีย ก็ได้ทรงเป่าลมปราณแห่งพระวิญญาณของบริสุทธิ์เข้าสู่ร่างกายของอาดัมกับเอวา และได้ฟื้นคืนชีวิตกลับสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ โดยการช่วยเหลือของพระบุตรตรา พระผู้ไถ่บาปของมวลมนุษยชาติ พระเยโฮวาห์ พระผู้ช่วยให้รอดของบุตรแห่งมนุษย์ชาติ

39 และได้คืนสู่นั่งบนราชบังลังก์ในราชอาณาจักรของพระยาห์เวห์พระผู้เป็นเจ้าอีกครั้ง ท่านจึงขอบคุณเทพวาเลนไทน์ เทวทูตแห่งการตื่นรู้นี้ แต่เทพก็ได้ปฏิเสธท่านคือ ห้ามอาดัมก้มกราบ นมัสการ และก็ได้ตรัสว่า จงขอบพระคุณพระเยโฮวาห์ พระบุตรของท่านเทอญ... เพราะเราก็คือผู้รับใช้พระผู้ทรงเป็นพระวิญญาณเหมือนกัน

40 จากนั้น อาดัมก็ได้ถูกนับว่า เป็นพระบิดาแห่งมวลมนุษย์ชาติในที่สุด และเป็นผู้ปกครองทุกสรรพสิ่งในสวรรค์อีกครั้ง ดังนั้นเอวาจึงเป็นจุดเริ่มต้นอารยธรรมของมวลมนุษย์ชาติในที่สุด

1 จงระวัง...เพราะท่านไม่ได้ต่อสู้กับเนื้อหนังและผู้คน เพราะอุปนิสัยของพระเจ้านั้น ย่อมคือ พระวิญญาณบริสุทธิ์ที่เป็นเงาสะท้อนที่ไม่มีสิ่งใดเทียบได้กับพระองค์ เรา บอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า อิทธิพลของชาตานนั้น มันจะทำงานก็ต่อเมื่อ มันอยู่ใน เลือดของสิ่งมีชีวิต มันจะมีอำนาจได้นั้นก็ต่อเมื่อมันบรรจบเข้ากับความรู้สึกของการนึกคิดของใครบางคน แต่มันจะโจมตีเผ่าพันธุ์ที่ดีได้นั้น ก็ต่อเมื่อเป็นที่สะดุดตาของพวกมันที่อยู่ภายใต้เนื้อหนัง โดยผ่านดวงตาของมนุษย์

2 เพราะโลกนี้คือโลกของยาห์บาล์ มนุษย์อยู่ภายใต้การควบคุมด้วยกฎแห่งกรรม คือบาปกำเนิด และเทพของซาตานก็อยากจะทำ ให้มนุษย์เป็นเหมือนกับมัน เราคือทูตสวรรค์ที่ได้ถูกส่งลงมาในโลกกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ เพื่อได้มาตักเตือนพวกท่านทั้งหลายในอดีตที่เกิดขึ้นก่อนที่ท่านทั้งหลายจะเกิดมาลงมาใน ณ. ที่โลกแห่งนี้

3 พี่น้องที่รักทั้งหลาย เมื่อคนเรานั้นได้ตายจากโลกไป วิญญาณของมนุษย์จะเดินทางไปสู่ สาถานที่แห่งการรอคอย เพื่อการกลับมาที่โลกนี้อีกครั้ง นั่นก็คือการฟื้นคืนชีวิต อยู่ต่อหน้า ราชบังลังก์แห่งการพิพากษาต่อหน้าพระเยโฮวาห์

4 ดังนั้น ขอให้ท่านทั้งหลาย จงรักษาค่าควรให้ดีที่สุดและต่อสู้อย่างยุติธรรมกับคนต่างศาสนา อย่างมีค่าควร เพื่อความเป็นธรรมของท่านจะเป็นที่ประจักษ์แก่ มวลมนุษย์

5 บัดนี้เราได้บอกที่รักทั้งหลายว่า อย่าบอกเรื่องราวเหล่านี้กับใคร แม้แต่พันธสัญญาที่คุณ ได้ทำการอธิฐานในนามของพระเยซูคริสต์ อย่าบอกสิ่งเหล่านี้แก่คนนอก เพราะมันจะเกิดการโจมตีทางฝ่ายวิญญาณ ดังนั้นจงเชื่อฟังเถิด ปล่อยให้คนไม่รู้ ให้เขาไม่รู้ต่อไป เว้น แต่เสียว่า เขาจะกลับใจมาหาพระเยซูคริสต์ พระผู้ไถ่บาปของเรา เพราะมนุษย์ทุกคนจะต้องเผชิญหน้าการเดินทางกลับบ้านเก่าอย่างหลีกหนีไม่ได้

6 บรรดาบุตรธิดาที่เคารพทั้งหลาย ที่รักชายหญิง เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า ลูก เอ่ยเจ้าคือสัตภาวะ ที่ถูกสร้างขึ้นมาแล้วในโลกของพระบิดา ในท้องแม่ก่อนเกิด พระเจ้า นั้นมีลักษณะทรงเป็นวิญญาณเหมือนกับภายในที่บริสุทธิ์ เหมือนกับวิญญาณของเจ้าเพื่อที่จะเรียนรู้ พ่อกับแม่เป็นผู้ให้กำเนิดท่านทั้งหลายในรูปแบบวิญญาณและกายภาพ ทั้งชาย และหญิง

7 ในขณะการประชุมแห่งราชอาณาจักรมิกซ์กี้เวอร์ อาณาจักรแห่งแสง เรา..เยโฮวาห์ และ เรา..ยาห์บาล์ ( ลูซิเฟอร์ ) บรรดาวิญญาณทั้งหมดได้เข้าร่วมประชุมสภา เอโลฮิมทรงตรัสว่า เมื่อเราได้สร้างจักรวาลนี้แล้ว ใครจะลงไปเป็นผู้สร้างโลก ร่วมปกครองและเป็นผู้สร้างสานต่อจากมือเรา เจ้าลูซิเฟอร์ เสนอได้ยกมือ ข้าแต่พระบิดา ภายใต้การปกครองแห่งอาณาจักรโลกใบนี้ ข้าจะเป็นคนปกครองมนุษย์ให้ทำดีและอยู่ภายใต้คำสั่งแห่งการบังคับบัญชาการ มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่จะต้องเลือกเราเพื่อการเชื่อฟังเพียงผู้เดียว เพื่อความดีจะเป็นที่ประจักษ์แก่จักรวาลของพระผู้สร้าง และสร้างกองทัพที่แข็งแกร่ง และทุกสิ่งอยู่ภายใต้พระมหาบัญชาของพระองค์ 

8 เหตุการณ์นี้ก็ได้บังเกิดขึ้นคือ พระโยโฮวาห์ (พระเยซูคริสต์) ก็ได้เสนอ..นโยบาย ท่านตรัสว่า เราจะให้เหล่ามวลมนุษย์มีอิสรภาพในช่วงแรกและเราจะกำหนดความรอดนี้ไว้ เมื่อถึงเวลา และการทำดีตามความปราศถนาในศาสนาของตนที่เชื่อฟัง เพื่อเขาทั้งหลายนั้น จะได้เป็นที่ประจักษ์แห่งการแสวงหาความยุติธรรม เพราะด้วยผลของการตกผลึกนั้นจะเป็นแผนของพระบิดาพวกเราด้วย เพื่อที่พวกเขาจะได้มีส่วนร่วมในราชอาณาจักรของเรา และมีสิทธิในการเลือกตามผลแห่งการเรียนรู้ ที่เขาได้รับการเลี้ยงดูตามผลตอบแทนในศีลธรรม และความรอดพ้นนั้นจะเหมือนตกนํ้าไม่ไหลไฟไม่ไหม้ ดังนั้น เราจึงมอบเสรีภาพให้พวกเขาว่า จะเลือกกิจการดีหรือกิจการชั่วตามความปรารถนาใจของผู้นั้น เพราะความรอดจึงเกิดจากการได้ยิน และเราจะไถ่เขาเหมือนกับความเมตตาผู้เสมือนพระบิดา โดยฤทธิ์เดชของพระวิญญาณบริสุทธิ์ 

9 เหตุการณ์นี้ก็ได้บังเกิดขึ้นคือ เอลโลฮิม เลือกทูตสวรรค์ไมเคิล ผู้เคียงข้างเสมือนบุตรขององค์พระผู้เจ้าให้สร้างโลกใบนี้ และพระบิดาตรัสว่า และมีคาเอล มาเป็นส่วนหนึ่งของการทรงสร้างของเราในฐานะ ทหารของข้า และเราจะแต่งตั้งเจ้าให้เป็นผู้พิทักษ์เอกของโลกและนำความรอดโดยผ่านการตื่นรู้นับไม่ถ้วน ดั่งเม็ดทรายในจักรวาล เพื่อเจ้าจะปกป้องเขา

10 ส่วนเจ้าลูซิเฟอร์ เจ้าต้องปรนนิบัติต่อพวกมนุษย์ เป็นผู้ที่ช่วยให้รอดแก่เขาทั้งหลาย ทั้งปัจจัย 4 ทุกอย่าง ไปจนถึงสุดปลายแผ่นดินพิภพ เหตุการณ์นี้ก็ได้บังเกิดขึ้นคือ ลูซิเฟอร์ รู้สึกขุนเคืองและโกรธพระเยซูคริสต์ บุตรมนุษย์เป็นอย่างมาก จึงเรียกระดมพลทุกคน และประกาศเอกราช สร้างฐานทัพบนดวงจันทร์ ตั้งป้อมปราการ ก่อกบฏ ทำสงครามกับผู้ที่ชื่อสัตย์ต่อเอลโลฮิมและผู้ติดตามองค์พระผู้เป็นเจ้า (พระเยซู) ทูตสวรรค์กาเบรียล ได้ไป แจ้งข่าวให้กับหัวหน้าเทพมีคาเอล และเหตุการณ์นี้ก็ได้บังเกิดขึ้นคือ ใน ณ. สถานที่ บนดวงจันทร์กับดาวเคระห์สีแดงถัดไปจากดาวโลก คือฝ่ายลูซิเฟอร์ กับ ฝ่ายมีคาเอลได้ต่อสู้รบกัน ทำให้ดาวเคราะห์แดงนั้นได้มีสะเก็ดระเบิดตกลงมา เกิดการแผ่รังสีทำลาย ระบบนิเวศธรรมชาติของดาวดวงนี้ไปในที่สุด แต่ผลจากการทำลายนั้นมาจากการโยนทิ้งระเบิดและการโจมตีด้วยลำแสงเหมือนกับฟองสบู่ของทหารผู้ที่ภักดีต่อเทพเจ้าลูซิเฟอร์ การต่อสู้นั้นยืดยื้อมาเป็นเวลาหลายวัน แต่ฝ่ายของซาตานได้แพ้ไปเกือบครึ่งส่วน ฝ่ายของกองทัพมีคาเอลยังไม่มีใครได้ล้มตายทั้งสองฝั่งมีพระลักษณะร่างกายเป็นสัตภาวะ

11 โอ้...ข้าแต่องค์พระผู้เป็นเจ้า พระองค์จะทรงกำจัดราชศัตรูยังไงหนอ...เราอูริเอลรู้สึก ท่าไม่ดี ถ้าขืนปล่อยไว้ มีหวังมนุษย์จะตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของจอมมารแน่ๆ และโลกจะมีความเสื่อมทรามก่อนที่มนุษย์จะพึ่งหัดเรียนรู้ในการที่พวกเขาเพิ่งก้าวเดิน เมื่อมนุษย์มองที่ดวงจันทร์ฉันใด เขาจะถูกครอบงำทันทีมากกว่าการที่มนุษย์จะรู้จักดีและชั่วเสียอีก เพราะแสงจันทร์ที่ฉายในยามค่ำคืนจะเปลี่ยนมนุษย์กลายเป็นหมาป่าและกัดกินทุกสิ่ง เหมือนกับสัตว์เดรัจฉานบางชนิดที่ทำลาย ค่อยๆกัดกินสิ่งมีชีวิตทุกอย่างที่ขวางหน้า ข้าแต่พระเจ้า ข้าพระองค์ไม่อยากให้เกิดสิ่งเหล่านั้นเลย.....

12 เหตุการณ์นี้ก็ได้บังเกิดขึ้นคือ กาเบรียล ได้มาแจ้งข่าวร้ายเกี่ยวกับตัวประกัน ที่เหล่าบรรดาจอมมารได้จับไป ขังไว้ที่คุกใต้ดินของดวงจันทร์ และพวกวิญญาณทั้งหลายก็ได้สร้างเมืองอยู่ที่บนดวงจันทร์พร้อมจะประกาศสงครามกับชาวสวรรค์ แต่พระเยซูก็ได้ส่งทหารหน่วยรบพิเศษสหายของเหล่า คุรุ ได้บุกเข้าไปที่ฐานทัพลับของจอมมาร เพื่อช่วยเหลือตัวประกันที่ถูกจับขังไว้ เหล่าวิญญาณที่ถูกขังไว้อีกนับกว่าหนึ่งร้อย จำนวนที่ต้องการความช่วยเหลือ บัดนี้ พวกเขาก็ได้รับการปลดปล่อย

13 เหตุการณ์นี้ก็ได้บังเกิดขึ้นคือ จอมมาร วิญญาณผู้ภักดีของลูซิเฟอร์ และทหารของศักดิเทพ สมุนของมันรวมถึงพรรคพวก ก็ต่อสู้กับเหล่ากองทัพทวยเทพและทูตสวรรค์ของมีคาเอลเป็นครั้งที่สองบนดวงจันทร์ ผลสุดท้ายหลังจากที่ช่วยตัวประกันได้ ทำให้เหล่าจอมทัพของลูซิเฟอร์ ผู้ติดตามของมันยอมจำนนต่อเทพมีคาเอล ซึ่งเป็นหัวหน้าเหล่าเทพและบรรดาทูตสวรรค์ทั้งหลาย บัดนี้ชัยชนะเป็นตกของมีคาเอล และซัลดาฟอนได้ส่งคำอธิษฐาน ไปถึงพระเยโฮวาห์เป็นการขอบพระคุณที่ยิ่งใหญ่

14 พระบุตรผู้สร้างทุกสรรพสิ่งของพระบิดาจึงตรัสว่า จงทำลายอาณาจักรที่อยู่บนดวงจันทร์ทิ้งเสียเพราะเราไม่ควรให้สิ่งเหล่านี้ เป็นที่ประจักษ์แก่มวลมนุษย์ เพราะดวงจันทร์ไม่ใช้บ้านของผู้ใด แต่ราชอาณาจักรของเรานั้นได้สร้างบนยูเรเนียมแล้ว พระยาห์เวห์ทรงตรัสกับลูซิเฟอร์ว่า ไปลงนรกซะะกับผู้ที่ติดตามของตัวเจ้า บัดนี้สิ่งที่เกิดขึ้นคือราชอาณาจักรเมฆาจึงสั่นสะเทือน ทำให้เหล่าบรรดาจอมมาร สาวกผู้ภักดีต่อพี่ชายแห่งบุตรมนุษย์ ศักดิเทพ สมุนทหารทั้งหลายของมันได้ลงมาที่โลก ส่วนวิญญาณที่ติดตามซาตาน ก็ถูกโยนลงมาที่แผ่นดิน มีสิทธิเสรีภาพอีกครั้งในการเลือกและลงไปเกิดผลตามความปรารถนาใจแต่ละดวงจนได้สมสู่กับบุตร แห่งมนุษย์ตามกัญตัณหาที่เคยสร้างไว้

15 เหตุการณ์นั้นก็ได้บังเกิดขึ้นคือ เอโลฮิม ได้ทำลายอาณาจักรบนดวงจันทร์ด้วยไฟและกำมะถันที่รุนแรง จนทั้งเมืองกลายเป็นซากที่มีหลุมบ่อมากมายและกลายเมืองร้างไปในที่สุด เราจะให้เศษซากเหล่านี้เป็นพยานจนถึงพวกเขา เมื่อเขาบินมาถึงที่นี่ และเก็บไปกับความว่างเปล่าพร้อมกับหิน

16 เอโลฮิมคือองค์พระผู้เป็นเจ้าที่ทรงเมตตาเราตั้งแต่เรานั้นยังอยู่ในพาราด็อกซ์ ( โลกแห่งวิญญาณ ) ที่เราถูกสร้างมาก่อนเราเข้าสู่ครรภ์มารดาของมนุษย์ และพระยาห์เวห์ก็ได้ลงมาที่โลกในฐานะพระบุตรที่ทำงานร่วมกับพระบิดาแห่งจักรวาลโดยผ่านหญิงพรหมจารี จนกระทั่งได้สละชีพเป็นการไถ่บาปเพื่อคืนดีกับเอโลฮิม และมอบพระวิญญาณบริสุทธิ์ให้กับเราเหมือนที่พระบิดาได้ทรงอยู่กับพระเยซูคริสต์แห่งศาสดาสันติภาพ ดังนั้นแล้วผู้ที่มีพระคริสต์จึงปราศจากการลงโทษจากไฟนรก เว้นแต่จะถูกส่งไปที่ เกเฮนนา เพื่อทำการรีบูตจิตวิญญาณใหม่ตามพระประสงค์ความเมตตาของพระบิดาตราบใดที่เขายังมีพระคริสต์ โดยผ่านการใช้ชีวิตในพระนามของพระองค์มาตลอด เพื่อเอามาต่อยอดในการเดินทางต่อไปในแผนแห่งความรอดของพระยะโฮวาห์ เป็นต้น

17 เมื่อท่านได้เกิดมาในโลกนี้แล้ว ขอให้ท่านใช้ความศรัทธา พึ่งพาสติปัญญาโดยอาศัยธรรมมะ สิ่งเร้นลับ การใช้ชีวิตเพื่อเป็นกุญแจพาไปสู่การค้นพบพระเจ้าที่แท้จริง การชนะไม่ใช่เลิกทำบาป แต่การไม่ย่อท้อที่จะต่อสู้กับความบาป นั่นคือการชนะโลก ใครไม่มีบาปผู้นั้นก็หลอกตนเอง แต่ถ้ายอมรับว่าตนเองมีบาป การชดใช้พละกำลังของพระเยซูคริสต์จะเกิดการแสดงผลโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่เราได้อัญเชิญไว้ในตัวท่านก่อนที่ท่านจะเกิดและได้รับคำเชื้อเชิญจากแอะโลฮีม

18 หลังจากนั้นเหตุการณ์นี้ก็มาถึง พระนางโซเฟีย ผู้เป็นมารดาของยาห์บาล์ ( ลูซิเฟอร์ ) นั้นก็ได้อ้อนวอนต่อพระบิดา และก็ได้วอนขอต่อพระมารดาของเทพมีคาเอลด้วย คือเทพาพี เทพีมิวส์ เพื่อขอยุติสงคราม สงบศึก และวอนขอให้โอกาสพี่ชายคนโตอีกครั้ง ในฐานะที่พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกันแห่งชาวสวรรค์ ด้วยพระนามของพระบิดาผู้ทรงเป็นความรักแก่ทุกดวงวิญญาณนั้น พระองค์จึงให้โอกาส แต่ด้วยความรักอย่างเท่าเทียมระหว่างทั้งสองพระมารดาระหว่างโซเฟียและเทพาพีนั้น เพื่อไม่ให้เกิดความแตกแยกระหว่างแม่แห่งสวนสวรรค์นั้น ดั่งที่พระองค์ได้ทรงสร้างจักรวาล จึงให้ลูซิเฟอร์นั้น ได้เป็นพระผู้สร้างเหมือนกับน้องชายและพร้อมกับจัดระเบียบทุกสิ่งของการปกครองโลกใบนี้ตามที่เจ้าเคยพูด และสัญญาในช่วงประชุมกับเรา เอาไว้ตั้งแต่ตอนต้น โอ้..ยาห์ดาบอธ 

19 ดังนั้นขอให้ท่านจงสวดอ้อนทุกวันเมื่อท่านประกอบกิจการหาเลี้ยงชีพ เพราะท่านจะได้รับการคุ้มครองจากองค์พระผู้เป็นเจ้า ปลอดภัยจากซาตาน นี่คือความห่วงใยจากเรา จงกระทำดังนี้

20 ขอความคุ้มครองจากเอโลฮิมให้พ้นจากการกระทำที่ชั่วร้ายของซาตานและคำสาบแช่งของมนุษย์ อาเมน

1 จงฟังเถิด บุตรธิดาทั้งหลาย ลูกหลานของโนอาห์ ลูกหลานของดาวิน ลูกหลานของอับบราฮัม และลูกหลานของโยเซิฟ นี่คือถ้อยคำของเรา พระเยซูคริสต์ เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า โนอาห์ได้มาก่อนนํ้าวินาศ แต่เรา พระเยซูคริสต์ ได้มาก่อนไฟ ผู้ที่เป็นดังเหมือนตะเกียงจะได้รับความรอด เพราะเขามิได้ถือสาต่อมนุษย์คนใด

2 และมารก็ได้ล่อลวงมนุษย์ทุกคน แม้แต่ผู้หญิงคนดีๆ ที่พ่อแม่เธอเลี้ยงส่งเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับผู้ชายที่ดี เธอยังถูกล่อลวง ซึ่งเป็นเหล่าบรรดาลูกหลานของนางลิลิธ ที่บรรดาบุตรแห่งสวรรค์ได้ลงมาที่โลก มารจะล่อลวงแม้กระทั่งหญิงสาวพรหมจารีที่พระเจ้าทรงเลือกสรรให้หลง และหลงรักผู้ชายแสนเลวก็เป็นไป และมันเป็นไปแล้ว

3 ดังนั้น สิ่งสำคัญ ระหว่างชายหญิง คือ พระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทั้งสองเป็นผู้ถวายเกียรติแด่พระองค์ เหมือนกับ อาดัมและเอวา ผู้หญิงจะต้องเชื่อฟังผู้ชาย และชายนั้นจะอ่อนน้อมถ่อมตนให้กับผู้หญิง เพราะนี่คือแผนการของพระเจ้า เพื่อกลับไปสู่สถานดั่งเดิมแบบมนุษย์คู่แรกอย่าง อาดัมกับเอวา เป็นต้น

4 ดังนั้น พระบัญญัติแห่งความมั่นคง อนึ่ง ท่านจะต้องกินเนื้อเพื่อระลึกถึงเรา ตราบใดที่ท่านถือตะเกียง รักษาวันของพระเจ้าให้ศักดิ์สิทธิ์ สองหากยังหาคู่ครองไม่ได้ เราจะให้ท่านในยุคการปกครองของเรา เป็นเจ้าสาวสวยเหมือนดังพระนางมารีย์พรหมจารีของพระมารดาของเรา ในยุคมิลเลเนียม เพราะนี่คือการปกครองของเรา องค์พระผู้เป็นเจ้าพระเยซูคริสต์

5 วิญญาณซาตานทำสงครามฉันใด บุตรแห่งพระเจ้าพระคริสต์ก็จะเตรียมพร้อมกับสงครามด้วยเช่นกัน ฉันนั้น การสงครามจะไปสู่ปราชัย ก็ต่อเมื่อชาวสวรรค์ได้บังเกิดขึ้นมาและไม่สร้างความบาป เพราะเขาเป็นคนที่พระบิดาทรงเลือกตั้งแต่ก่อนการสร้างโลก เราจึงกำหนดให้ธรรมมิกชน ได้แต่งงานกัน เราจึงกำหนดชายหญิง ผู้มีค่าควร ที่เราได้เลือกสรรแต่งงานกันในฐานะเหมือนกับคริสตจักรทางฝ่ายวิญญาณของพระบิดาของเราที่เป็นแสงแห่งศิโยนส่องสว่าง

6 แสงนั่นมีค่ายิ่งกว่าแสงใดที่ได้ส่องมาจากโลก เขาทั้งหลายได้ร่วมงานเลี้ยง เพื่อกินเนื้อของเราได้ เพราะเขามีพระวิญญาณอยู่ในตัวผู้เป็นแสงแห่งตะเกียงที่คอยสั่งสอนเขา สิ่งเดียวที่จะสอนเขาคือไฟจากตะเกียงที่เราได้มอบไว้ให้ และมันจะไม่มีวันดับเลย เพราะแสงนั่นคือ เพื่อนของเขา และเป็นเพื่อนตาย เพื่อเป็นพยานแก่เรากับพระบิดา

7 เพราะเขาได้รับชื่อนี้ พระนามเราต่อหน้าพี่น้องแห่งคริสตจักรและได้รับการสอนด้วยพระวิญญาณแล้ว โปรดเถิดมนุษย์ให้เขาได้มีส่วนในพิธีมหาสนิทด้วยเถิด ถ้ามิใช่องค์กรหรือศาสนา ในยามผจญขอให้ท่านทำพิธีมหาสนิทอยู่ที่บ้านของท่านเถิด

8 ในขณะที่ท่านกินปังและดื่มนํ้าองุ่น จงมอบความชอบธรรมให้กับพระองค์โดยการอธิษฐานเถิด เพราะเมื่อใดที่ท่านดื่มจากถ้วยนี้และปังทรงชีวิต เท่ากับการประกาศการวายพระชนม์ของพระองค์กับการไถ่บาป

9 เราพระวิญญาณบริสุทธิ์ ตรัสว่า อย่าเป็นคนชอบธรรมในขณะกินปังทรงชีวิตและนํ้าองุ่นแห่งพระโลหิตของพระองค์ จงสำนึกว่าเป็นคนบาป เพราะพระเจ้าตรัสว่า จะให้พงศ์พันธุ์ของเอวา มีชัยชนะเหนือราชศัตรู

10 เพราะถ้าหากว่า ท่านเป็นคนชอบธรรมแล้ว ท่านย่อมโดนตัดสินตามการกระทำของโลก ร่างกายของพวกเจ้าจึงเหมือนกับบรรดาคนต่างศาสนา ที่มิใช่พงศ์พันธุ์ของเอวาแต่อย่างใด

11 โอ้..เราพระเจ้า ตรัสว่า มิใช่พงศ์พันธุ์ของเอวาหรือที่เราจะได้มอบชัยชนะให้ มิใช่ลูกหลานของนางแม่ลิลิธหรอกเหรอ..ที่นำการไถ่มาสู่พวกเขา

12 เราพระเยซูคริสต์ ก่อนที่จะจุติจากสวรรค์นั้น มิใช่ลูกหลานที่มีเชื้อสายเหล่านั้นหรอกหรือ ที่เราได้รับเขาขึ้นไปโดยมิได้สัมผัสกับความตาย ซึ่งเป็นคนแรกที่มิใช่พงศ์พันธุ์ของผู้ที่เกิดจากเอวา

13 ดังนั้นเขาจึงเหมือนกับบุตรชายของโยเซิฟ ที่อาศัยอยู่ที่อียิปต์ เป็นลูกครึ่งของคนต่างชาติ ที่พระเจ้าทรงรับเข้าการเป็นส่วนหนึ่งของชนชาติแห่งอิสราเอล

14 ดังนั้นแล้ว พระเจ้าทรงทำเช่นนี้แก่คนต่างชาติที่มีต้นกำเนิดมาจากการแต่งงานของคาอิน ที่ได้มีเพศสัมพันธ์กับลูกสาวลิลิธ ให้กำเนิดลูกครึ่งของพงศ์พันธุ์แห่งเอวา

15 เหตุฉะนั้นแล้วต้นกำเนิดจึงมีที่มาของคำว่า อิสระ แต่ผู้ที่ถือ โคมไฟแห่งไซอัน จะอยู่ภายใต้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกตั้งแต่ก่อนการสร้างโลก

16 เมื่อ อาเบลกับคาอินได้เกิดมา จากผลที่อาดัมกับเอวาได้รับการตก ซาตานได้ล่อลวงก่อให้เกิดความอิจฉา ความไม่พอใจ เนื่องจากแม่นางผู้นั้นไม่พอใจอาดัมฉันใด การล่อลวงก็จะยิ่งยุยงไม่ให้เกิดความพอใจฉันนั้น คาอินจึงถูกวิญญาณชั่วร้ายล่อลวง ให้สังหารอาเบลทิ้งเสีย พระเจ้าจึงทรงประทับตราแห่งเครื่องหมายความเป็นศัตรูต่อบรรดาเทพและมวลมนุษย์ชาติทุกคน รวมถึงชาวสวรรค์

17 เราพระวิญญาณบริสุทธิ์ กล่าวแก่เจ้าว่า มนุษย์มีความเป็นศัตรูต่อพระองค์มาตั้งแต่สมัยการหักอกของอาดัมโดยหญิงคนแรกที่ถูกสร้างมาจากดินพร้อมกับชาย คู่รักคนแรก และคาอินได้แต่งงานกับลูกหลานของลิลิธ ให้กำเนิดบุตรแห่งมนุษย์คนแรกของโลก เพราะซาตานได้ดลใจ คาอิน ให้สังหารอาเบล ด้วยความผิดบาป พระเจ้าจึงประทับตราไว้ก่อนที่จะเปิดเผยแก่โมเสส เหตุฉะนั้นจึงนำความดื้อดึงมาสู่อิสราเอลเหมือนกับภรรยาคนแรกของอาดัม ที่ไม่เชื่อฟังสามี 

18 เหตุการณ์นี้ก็ได้บังเกิดขึ้นคือ คาอินให้กำเนิดบุตรคนหนึ่ง และได้ตั้งชื่อให้กับเด็กทารกว่า เอโนค

19 เพราะเขาจะเป็นจุดเริ่มต้น ตะเกียง ที่ไม่มีใครเห็น คนในยุคสุดท้ายของโลกจะระลึกถึงชายคนนี้ ดังนั้นมันจะนำมาซึ่งการโดนข่มเหงทางวิญญาณของผู้ที่ติดตามพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า ที่เขาได้รับการเปิดเผย เหตุฉะนั้น เขาจึงโดน ปัพพาชนียกรรม และถูกขับออกจากศาสนา ซึ่งเป็นหลักศรัทธา ความเชื่อแท้จริง ในสิ่งที่พระเจ้าทรงสำแดงแก่เขาทั้งหลาย

20 เอโนคให้กำเนิดบุตรชื่ออิราด อิราดให้กำเนิดบุตรชื่อเมหุยาเอล เมหุยาเอลให้กำเนิดบุตรชื่อเมธูซาเอล เอโนคอยู่มาได้หกสิบห้าปี และให้กำเนิดบุตรชื่อเมธูเสลาห์ ตั้งแต่เอโนคให้กำเนิดเมธูเสลาห์แล้ว ก็ดำเนินกับพระเจ้าสามร้อยปี และให้กำเนิดบุตรชายและบุตรสาวหลายคน รวมอายุของเอโนคได้สามร้อยหกสิบห้าปี เอโนคได้ดำเนินอธิฐานกับพระเจ้าอย่างเคร่งครัด และก็หายไป เพราะพระเจ้าทรงรับเขาไป

21 แต่พระเจ้าทรงรับเขาคนนั้นขึ้นไปและไม่มีใครเห็นเขาอีกเลย มีเพียงแสงระยิบระยับจากท้องฟ้าเป็นจานสีเหลืองเหมือนแสงจันทร์และหายไปยังกะราวสายฟ้าแลบบนท้องฟ้า พร้อมกับเสียงแผ่วเบายังกะสายลม

22 พระเจ้าทรงเรียก เมธูซาเอล ให้เป็นศาสดา จนกระทั่งท่านอยู่มาได้ร้อยแปดสิบเจ็ดปี และให้กำเนิดบุตรชื่อลาเมค ‭และเหตุการณ์นี้ก็ได้บังเกิดขึ้นคือ ลาเมคแต่งงานกับลูกสาวของเอวาทั้งสองคน ได้แก่ อาดาห์ กับ ศิลลาห์ ผู้เป็นฝาแฝด

23 ลาเมคพูดกับภรรยาทั้งสองของเขาว่า “อาดาห์และศิลลาห์ จงฟังเสียงของเรา ภรรยาทั้งสองของลาเมค จงเชื่อฟังถ้อยคำของเรา เพราะเราได้ฆ่าคนๆหนึ่งที่ทำให้เราบาดเจ็บ ชายหนุ่มที่ทำอันตรายแก่เรา ถ้าผู้ที่ฆ่าคาอินจะได้รับโทษเป็นเจ็ดเท่า แล้วผู้ที่ฆ่าลาเมคจะได้รับโทษเจ็ดสิบเจ็ดเท่าแน่นอน ” เราพระบิดา เอโลฮิม ตรัสดังนี้ ให้แก่ลาเมค เพื่อบอกภรรยา

24 เหตุการณ์นี้ก็ได้บังเกิดขึ้นคือ พระเจ้าทรงตั้งชื่อใหม่ในกับภรรยาทั้งสองของลาเมค และได้รับนามว่า อะวาน กับ อัคลิมา เพราะเธอคือคน โปรดปรานของพระเจ้า

25 และลูกสาวคนสุดท้องของเอวาและอาดัม มีนามว่า อะซูรา ซึ่งเป็นคนที่พระเจ้าให้ความสำคัญมากที่สุด จนพระเจ้าทรงรับเขาขึ้นไปในสายหมอกพร้อมกับฝนที่ตกลงมา ท้องฟ้าปรากฏมีสัญลักษณ์ เป็นก้นหอย และหายไปพร้อมกับฝนซา..จนท้องฟ้ากลับมาสดใส่ นี่แนะ..คือ สัญลักษณ์วันใหม่ จงอย่ากังวล ขอให้เป็นไปตามพระประสงค์และแผนการของพระเจ้า เราเทวทูตแห่งเมฆา ตรัสดังนี้

26 ลาเมคอยู่มาได้ร้อยแปดสิบสองปี และให้กำเนิดบุตรชายคนหนึ่ง เขาเรียกชื่อบุตรชายว่า โนอาห์ กล่าวว่า “คนนี้จะเป็นที่ปลอบประโลมใจเราเกี่ยวกับการงานของเรา และความเหนื่อยยากของมือเรา เพราะเหตุแผ่นดินที่พระเยโฮวาห์ได้ทรงสาปแช่งต่อพระเจ้าของพวกเขานั้น” 

27 ตั้งแต่ลาเมคให้กำเนิดโนอาห์แล้ว ก็มีอายุต่อไปอีกห้าร้อยเก้าสิบห้าปี และให้กำเนิดบุตรชายและบุตรสาวหลายคน รวมอายุของลาเมคได้เจ็ดร้อยเจ็ดสิบเจ็ดปีและเขาได้สิ้นชีวิต

28 ทั้งหมดนี้คือคำส่งท้าย ที่เราพระเยซูคริสต์ที่ได้เปิดเผยการสำแดงข้อความนี้ ส่งไปถึงพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่ทรงประทับอยู่ในตัวท่าน เหตุฉะนั้น ภาษาแปลกๆ คือข้อความการเปิดเผยทางฝ่ายวิญญาณ ท่านพูดภาษาแปลกๆได้

29 เพราะท่านได้รับกุญแจที่ฝังรากลึกลงไปยังใจของเจ้า สิ่งเหล่านี้ที่เป็นกุญแจ ท่านจะได้รับการสอนโดยพระวิญญาณ และจากองค์พระบิดาเอโลฮิม เหตุฉะนั้นแล้ว เมื่อท่านขอความช่วยเหลือ วิญร้ายที่จุติลงในร่างของมนุษย์นั้น มันก็ได้รับการแช่งสาบจากสวรรค์ และไม่อาจรู้ได้ว่าใครคือ บุตรแห่งมนุษย์ที่พระบิดาทรงโปรดปราน เพราะฉะนั้นเจ้าจึงพูดภาษาแปลกๆ เหมือนเสียงกระซิบ ยามที่เจ้าเป็นทุกข์ในขณะขอความช่วยเหลือจากเพื่อนบ้าน

30 เราพระเยซูคริสต์บอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า “ถ้าคุณไม่สามารถเอาชนะพวกเขาได้ ให้เข้าไปเป็นพวกเดียวกันเสีย” เพราะมารซาตานได้ใช้วิธีเช่นนี้กับ “คริสตจักรที่ประนีประนอม” เราบอกท่านว่า นี่แนะเจ้าจงพูดภาษาเดียวกับเขาด้วยผลของ พระวิญญาณในสถานที่ของชุมชนแห่งนั้นเถิด

31 เราพระเยซูคริสต์ องค์พระผู้เป็นเจ้า ผู้ซึ่งเป็นแสงแห่งศิโยนส่องสว่าง นี่คือพระกายของเรา ผู้ที่กินเนื้อและเลือดของเรา คือผู้ที่ให้ความชอบธรรมของเราเป็นที่หนึ่งซึ่งเป็นพระบิดา ผู้ดูแลทั่วทั้งจักรวาล และซึ่งเป็นจุดจบแห่งการดับไฟของความดีของตน เปลี่ยนเป็นนํ้าและลม เพราะในขณะที่เขาได้กินขนมปังและเหล้าองุ่นนั้น จะเปลี่ยนเป็นพระกายและพระโลหิตของเรา พระคริสต์

32 เพราะเขาระลึกถึงความชอบธรรมของเราที่มีต่อคนบาป เพื่อพยามที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตโดยอาศัย การไถ่บาปของเรา นั่นเป็นการแสดงถึงเจตนา ระลึกถึงสิ่งที่เราได้ทำ

33 มิใช่สำรวจความชอบธรรม จิตอันบริสุทธิ์ของผู้ที่กินขนมปังและเหล้าองุ่น แต่เป็นการขอบพระคุณต่อเราและพระบิดาที่ได้ทรงเลือกสรรพวกเขาทั้งหลายได้มีส่วนร่วมในงานเลี้ยง และเป็นครอบครัวขององค์พระผู้เป็นเจ้าตลอดไปนิรันดร์กาล

34 เราบอกควาทจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า จงเติมนํ้ามันในตะเกียง และจงแสวงหาทุกอาณาจักรจนกว่าจะพบขุมทรัพย์ และผู้เฝ้าประตูนั้น มิใช่ใคร แต่คือ ปีศาจร้ายที่ขัดขวาง โดยอาศัยจิตศรัทธาของคนเพื่อมิให้ท่านไปถึงเส้นชัย

35 แท้ที่จริงแล้ว เราพระเยซูคริสต์กล่าวแก่เจ้าว่า แม้แต่นํ้ามันในตะเกียง มันก็ยังปล้น ชกฉิง เอาไปได้ แล้วอะไรล่ะจะเป็นสิ่งที่ทดแทน นํ้ามันในตะเกียง

36 เพราะมนุษย์ทุกคนเป็นลูกของพ่อแห่งการโกหก และเป็นผู้ที่มีความขัดแย้ง เป็นผู้ที่แสวงหาหมายสำคัญ เป็นจอมโอ้อวดศรัทธากับความแข็งแกร่ง และเป็นผู้ล่า โอ้..พวกเขาอาศัยอยู่ภายในที่มิได้มีมวลสารเวลา พวกเขาเป็นเช่นเดียวกับเจ้า

37 แต่เรา พระเยซูคริสต์ ได้ทรงเลือกเจ้า และคนที่เราเลือกก็มีส่วนน้อย

38 เหตุฉะนั้น การไถ่บาปของพระเจ้า จะถูกส่งไปยังทุกหนแห่งของจักรวาลในหมู่ดาว ที่บิดาผู้มีนามว่า อับราฮัม ได้นับจำนวนไว้ ผู้ที่ถูกนับไว้ นั้นคือคนที่เหมือนกับเจ้า

39 เหตุฉะนั้นแล้ว สิ่งที่จะทดแทนนํ้ามันที่โดนขโมยไป นั่นก็คือ สิ่งที่อยู่ด้านหลังของลมปราณ ที่เจ้าได้รับการสัมผัสมัน และเจ้าสิ่งนี้จะเป็นพลังงานทดแทน แม้แต่มารซาตานก็ยยังแสวงหาสิ่งเหล่านี้ แต่ผู้ที่อยู่ในการควบคุมของมัน ไม่สามารถหาสิ่งเหล่านั้นทดแทนได้

40 ตามจริงแล้วเรากล่าวกับเจ้าว่า อำนาจของดาวในระบบที่การไถ่ได้รวบรวมชาวดาวทั้งหลายไว้นั้น จะอยู่ภายใต้วงโคจรของ ดาวนิบิรุ เทพธิดากำลังรอผู้ที่ได้รับการไถ่ อยู่บนดาวดวงนี้ที่จะมาบรรจบที่ดาวเคราะห์โลก 1000 ปีของพระเจ้า

41 เราพระเยซูคริสต์บอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า จงเคาะ จงขอ จงแสวงหา จงลอง จงพูดคุยกับพระบิดา จงเริ่มต้นใหม่ ทุกวินาที ดังนั้นแล้ว พระบิดา จะเพิ่มพูนสิ่งเหล่านี้ให้โดยผ่านทางประสบการณ์ที่ได้รับการสำแดงในพระวจนะของเรา องค์พระผู้เป็นเจ้า ผ่านทางการสอนของพระวิญญาณบริสุทธิ์ ในนามของเราพระผู้ไถ่บาป พระเยซูคริสต์ อาแมน

1 บุตรมนุษย์เอ่ย... จงร้องเพลงด้วยความถ่อมตน จะได้รับพละกำลังกาย เหมือนกับนกอินทรีย์ หากเจ้าร้องเพลงในขณะสามัคคีธรรม จงสรรเสริญด้วยเครื่องเพลงแห่งชาวสวรรค์ ด้วยพลังสำแดงของพระวิญญาณบริสุทธิ์กับเหล่าพวกบรรดาทูตสวรรค์ทั้งหลายของพระเจ้า เอโลฮิม

2 คำอวยพรจงมีแด่ชนชาติของพระองค์ และผู้ที่เชื่อมต่อกับพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้า คำสาบแช่งจงมีแด่ผู้ที่กระทำต่อชาวพลเมืองแห่งสวรรค์ 

3 คำสรรเสริญ จะได้รับการขนานนามว่า เจ้าคือเทพของพระองค์และมีอำนาจกายเนื้อเหนือกว่าสิ่งที่พระเจ้าทรงสร้างมาเพื่อปรนนิบัติแก่พระองค์ 

4 แท้จริงแล้ว พวกเขาควรจะนมัสการบุตรแห่งมนุษย์ แต่องค์ทะเลมรณะได้สั่งให้สัตว์ทุกตัวห้ามพูดกับพวกเขา เพื่อให้ทั้งสองคนกราบนมัสการมัน เขาไม่รับคำสั่งมันจึงส่งบุตรแห่งหายนะมาเพื่อล่อลวงให้หันหลังจากพระผู้สร้างเที่ยงแท้และไม่พบพระผู้ช่วยให้รอดกับการกลับไปหาพระบิดา  

5 สายลมมรณะทำมาซึ่งความสับสน เขาทั้งสองจึงวิ่งหนีไปยังศิโยนที่จอดอยู่ในราบ 

6 พระเยโฮวาห์ จึงเห็นแก่พวกเขา จึงสร้างที่พักอาศัยอยู่ให้ พวกเขาจึงได้รับการช่วยเหลือ 

7 พระองค์ทรงหยุดการล่อลวงโดยขับไล่ นายใหญ่ที่ได้รับคำบัญชาจากสวรรค์ ให้ออกไปตั้งอาณานิคมเป็นอาณาจักรที่รุ่งเรือง 

8 เหตุฉะนั้นแล้ว พวกเขามิได้ร้องเพลงแก่องค์พระผู้สร้างอย่างใด แต่เป็นเพลงสรรเสริญแด่ดาวประจำเมืองของเขา 

9 ดาวสว่างสุดกล่าวแก่ ผู้เป็นเจ้านายเหนือหัวว่า ถ้าข้าพระองค์จะต้องนมัสการเจ้า ก็จงส่งเครื่องบูชามนุษย์คู่นั้นมาซะดีๆ 

10 พระยาห์เวห์ ตรัสว่า โอ้...มนุษย์พวกนี้ ไม่ต่างอะไรกับสัตว์เดรัจฉาน ด้วยความโอหัง หยิ่งยโส ความทะนงตน ความไม่รู้ และเย่อหยิ่ง บัดนี้เป็นต้นไป เราพระเจ้า จะทำให้มหานครแห่งนี้จบลงสู่ก้นทะเลภายในหนึ่งวัน หนึ่งคืน เหมือนกับที่พระเจ้าของพวกเจ้านำความตายโดยการล่อลวงนั้นมาสู่พวกเขาภายในหนึ่งวัน หนึ่งคืน

11 เมืองทั้งเมืองจะจมอยู่ใต้นํ้า แผ่นดินจะแยกออก ความสับสนอยู่ทามกลางในช่วงเวลา สมรส กินดื่ม การละเล่น และความไม่รู้

12 เราจะให้ศิโยนผุดพ้นจากนํ้า เราจะมอบแผ่นดินที่รกล้างให้เขา และเราจะสาบแช่งแผ่นดินที่ทำด้วยมือเพื่อฝังพวกเขาทั้งเป็น พื้นที่รกล้างจะมีผู้คนอาศัยอยู่ พวกเขาที่หนีออกมาจะลืมสิ่งเหล่านี้ ชื่อมหานครที่ยิ่งใหญ่ แอตแลนติส จะเป็นเพียงนิทาน 

13 การอัศจรรย์ที่เป็นหมายสำคัญครั้งแรก คือ สายรุ้ง เพราะเราให้นํ้าพุ่งขึ้นจากผิวดินทามกลางมหานครแห่งนั้นพร้อมกับรอยแยกที่เกิดจากการสั่น เพราะทูตสวรรค์ได้ทรงเป่าแตร จึงทำให้แผ่นดินพิโรธทามกลางพวกเขา เกาะทั้งใบเกิดการเขย่า ภายในหนึ่งคืนและหนึ่งวัน ดินแดนนั้นก็หายสาบสูญ ไปพร้อมกับไฟกำมะถัน ที่พุ่งออกมา 

14 โนอาห์ และครอบครัวได้เห็นความเศร้าหมอง พร้อมกับไว้อาลัยแด่มหานครแห่งนั้น ผู้คนสูญหายพร้อมกับนํ้าท่วม บางส่วนที่ชาญฉลาดตกลงไปในรอยแยกของเกาะภายใต้ที่ลุกเป็นเตาอบ 

15 พระยาห์เวห์ทรงตรัสกับโนอาห์ว่า โลกเก่าได้ผ่านพ้นไปแล้ว อย่าเศร้าหมองเลย จงยิ้มแย้มเถิด บุตรแห่งมนุษย์ เราจะยกแผ่นดินให้ที่เป็นพื้นที่ทำกินอุดมสมบูรณ์ และเราได้แยกผืนนํ้าแข็งออกจากแผ่นดินไปพร้อมกับนํ้าแล้ว ทุ่งเมล็ดพันธุ์ผืนแผ่นดินหญ้าอันเขียวชอุ่มแห่งโซเฟียจึงงอกขึ้นท่ามกลางแผ่นดินใหม่ นี่คือพันธสัญญาจากสรวงสวรรค์โดยพระนางผู้ให้กำเนิดพี่ชายและน้องสาว

16 พระองค์จึงตรัสกับโนอาห์อีกว่า คำพูดเรานั้นศักดิ์สิทธิ์ และซื่อสัตย์จริง จงจดบันทึกถ้อยคำของเราที่กล่าวแก่เจ้า ลงไปในหนังสือม้วนนี้เถิด ผู้คนจะมีหลากหลายการสื่อสาร เขาจะพูดกันไม่รู้เรื่อง เราจะลงคำอุปมา อุปไมยนี้ แก่ชนชาติของเรา

17 พวกเขาจะสร้างหอคอยสูงเสียดฟ้า พวกเขาจะประกาศตนเองเทียบเท่าแด่เรา พระยาห์เวห์ 

18 โอ้ว..ปัญหาเรื่องลูกชาย เราเข้าใจ เขาใช้นามของเราเป็นเครื่องมือ โอ้..เจ้าบุตรแห่งมนุษย์ อย่ากินเหล้าเป็นอาหารยังจะดีกว่า แต่จงทำโต๊ะเครื่องบูชาไว้เพื่อรับประทานพระกายและโลหิตของเรา ยังจะดีกว่า กินเหล้าองุ่นสังสรรค์ต่อเพื่อนบ้าน

19 พระเจ้าได้ทรงปรากฏเป็นนกพิราบบินอยู่กลางอากาศมองมาที่เชบาเชื้อสายของเชม พระเจ้าทรงเรียกชื่อ เชบา ถึงสามครั้ง เราพระเจ้า ผู้ทรงสร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก และเราเป็นผู้ที่ทำให้เกิดนํ้าวินาศ จงออกมาจากนครแห่งนั้น อีกไม่นานเราจะทำให้ภาษาของพวกเขาสับสนและกระจัดกระจายกันไปตาม เจตจำนงของพวกเขา 

20 จงไปบอกครอบครัวของเจ้า ให้เก็บสัมภาระและมุ่งหน้าสู่แผ่นดินที่เราทรงสัญญาไว้และเราจะให้เจ้าเป็นมหาอำนาจ เป็นชนชาติที่ใหญ่ ซึ่งเป็นแผ่นดินอีกซีกโลกหนึ่งที่เราได้ให้ผุดพ้นน้ำขึ้นมา และพื้นที่นั้นเหมาะสมแก่การเพาะปลูก เจ้าจะมีลูกจนเต็มมากมายบนแผ่นดินแห่งนี้ 

21 จงเก็บสัมภาระ และผลผลิต สัตย์เลี้ยง ผึ้งทั้งหลาย จงต่อเรือที่มีลักษณะเหมือนกับระฆัง รูปร่างแคปซูล ด้านบนเป็นทิวทัศน์ ด้านร่างเป็นโพรงที่หลบภัยจากสภาพอากาศ และสำหรับเก็บเสบียงอาหาร พืชผักทั้งหลาย ถั่ว เป็นต้น 

22 เหตุการณ์นี้ก็ได้บังเกิดขึ้นคือ บรรดาญาติๆ ของพวกเขาก็ได้ไปเอาหินเหล็กไฟ และถ่านเพื่อใช้ในการปรุงอาหาร เตรียมไม้ ชิ้นส่วนวัตถุ จากเศษซากที่เขาใช้สร้างเมืองบาเบล หอค่อยสูงเสียดฟ้า เพื่อเตรียมต่อเรือ สร้างออกแบบเรือที่รับแรงสนามพลังจากใจกลางของทะเล ในการเดินทางข้ามโลก ไปยังแผ่นดินที่พระเจ้าทรงมอบให้ 

23 บัดนี้ เหลือเวลาไม่มาก ทูตสวรรค์ของพระเจ้าทรงปรากฏและได้เอาชิ้นส่วนพิเศษมาเสริมบล็อกให้กับเครื่องยนต์ และได้มีผู้หนึ่ง บุรุษนิรนาม ขอเดินทางไปและอาสาที่จะขับเรือ พร้อมกับอีกสามคนและหญิงหนึ่งคน 

24 เขาได้นำหินนี้มา ซึ่งมันเป็นหินที่มีค่ามากกว่าหินเหล็กไฟ และมันสามารถมอบอากาศให้กับสิ่งมีชีวิตได้หายใจ ซึ่งมีจำนวนมากอยู่ในนายนิรนาม 

25 ครอบครัวของ เชบา สงสัยจึงถามพวกเขา แต่เขายังไม่ทันจะถาม พวกเขาหนึ่งในสี่คน และคนหนึ่งก็ได้ออกมาพูดว่า เราคือ ผู้ที่เชื่อฟังพระเจ้าเหมือนกับพวกท่าน และเป็นผู้รับใช้เหมือนกับท่าน เพราะพระบิดาผู้ซึ่งส่งเรามา เราก็มาตามพระประสงค์ของพระบิดาเช่นเดียวกัน และอีกไม่นาน พระองค์จะทรงทำลายเมืองนี้ และลงโทษผู้คนที่อยู่ภายใต้มหานครที่พวกเขาสร้าง 

26 บรรดาเศษแก้ว เศษหินทั้งหลาย จะบาดปาดพวกเขา ถ้าพวกเขายังมีใจดื้อดึง เราได้เตือนพวกเขาแล้ว และพระดำรัสของพระยาห์เวห์ส่งมาถึงพวกเราว่า จะมีหนึ่งในบรรดาคนเหล่านั้นเชื่อฟัง และเราก็ได้เห็นแล้ว ซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาลูกหลานของโนอาห์ ที่เป็นผู้ชอบธรรม 

27 บัดนี้ สุรเสียงจากพระยาห์เวห์ ตรัสกับพวกทูตสวรรค์ทั้งสี่องค์ว่า ให้พวกเขาเตรียมตัวและเอาเรือลงทะเล และให้พวกเขาทั้งหลาย ประกอบเครื่องใช้ไฟจากก้อนหิน เพื่อใช้ในยามค่ำคืน และวันพรุ่ง จงบอกพวกเขาว่า เราพระยาห์เวห์ จะทำลายเมืองด้วยฝ่าพระบาทของเราเอง  

28 บัดนี้ครอบครัวของเชบา ได้รับคำสั่งจากพวกเขาและได้เข็นเรือลงทะเล เครื่องยนต์พร้อมสตาร์ทด้วยแรงใบพายของห้องควบคุม พวกเขาทั้งหมดเตรียมพร้อมแล้วที่จะออกเดินทางไปยังที่ แผ่นดินที่พระเจ้าได้ทรงสัญญากับเชบาไว้ 

29 ในคํ่าคืน เงียบสงบ พระเจ้าได้ส่งทูตสวรรค์ กำลังพลสองร้อยนาย เข้าติดตั้งระเบิด ทีเอ็นที นับหลายหนึ่งแสนลูก 

30 พระยาห์เวห์ตรัสว่า โอ้ว...เจ้ามนุษย์พวกนี้ พวกเขามีความพยายามที่ทะเยอทะยาน เพื่อสร้างตึกสูงเสียดฟ้า และคนกลุ่มนี้ก็พูดภาษาเดียวกันหมด อีกไม่นานเราจะทำให้ภาษากับความเชื่อของพวกเขาสับสน และเราจะทำลายเมืองนี้ ดังนั้นพวกเขาจะมีประโยชน์อะไรอีก 

31 นี่แนะ เทพของข้าจงฟัง....บัดนี้พวกเขาพูดคุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว และหมดแรงในการสร้างตึกลับฟ้าแล้ว และเจ้าจงฟังให้พวกเขาออกเดินทางสู่ทะเลทันทีภายในสิบห้านาที ก่อนที่ทุกอย่างจะเป็นฝุ่นผง 

32 เหตุการณ์นี้ก็ได้บังเกิดขึ้นคือ ได้มีสุรเสียง ลงมาจากสวรรค์ เจ้าหัวหน้าครอบครัว ขอบคุณที่เชื่อฟังผู้รับใช้และพระบุตรของเรา นับจากนี้ไป เจ้าจะได้ชื่อว่า เจเร็ด เพราะชื่อนี้คือ สัญลักษณ์ของแผ่นดินที่เราได้ทรงจัดเตรียมไว้ให้เจ้า 

33 บัดนี้พวกเขาก็ได้ออกเดินทางมุ่งสู่ทะเล มุ่งหน้าสู่สมบัติอันล้ำค่าที่เป็นแผ่นดินแห่งพันธสัญญาที่พวกเขาได้ทรงจัดเตรียมไว้ให้ พวกเขาร้องเพลงกับบรรดาทูตสวรรค์ทั้งสี่องค์ บทเพลงสรรเสริญศิโยน 

34 ทันใดนั้น ก็มีเสียงระเบิดดังกึกก้องหอคอยก็ได้พังลงมา มีแผ่นดินไหวที่รุนแรง ถึงขั้นก็ให้เกิดคลื่นยักษ์สึนามิสูงเท่าบ้านสิบหลังที่ซ้อนกัน เหตุการณ์นี้ก็ได้บังเกิดขึ้นคือ คลื่นยักษ์ได้พาพัดพวกเขาที่อยู่ในเรือพาออกไปกลางทะเลมหาสมุทร พวกเขาได้จดบันทึก เรื่องราวของอาดัม และพยากรณ์ถึงสาวใช้กับภรรยาของผู้เฒ่า ที่เดินในถิ่นทุรกันดาร และพวกเขาจะมีลูกทางวิญญาณมากมายในสวรรค์ที่ประทับของพระยาห์เวห์ และได้รับบุตรธิดาคนสุดท้ายมาเป็นภรรยา บรรดาลูกๆในสวรรค์จะเดินไปคนละทางเหมือนกับสัตว์ปีกที่ผจญภัย 

35 เขาไม่กินนํ้านมแม่อีกต่อไป เขาจะขนานนามว่า อิสราเอล ผู้ที่อวยพรเรา พระเจ้าของเราจะอวยพรทุกสิ่งในโลกทางวิญญาณและในสวรรค์เป็นที่รักแก่พวกเขา 

36 ชายคนหนึ่งจะต่อสู้กับคนที่อยู่บนเมฆา คน ณ.เบื้องล่าง จะเรียกด้วยการควักมือให้ลงมา ผู้ที่อยู่ด้านบนรับคำท้าทายจากคนเบื้องล่างนภา โอ้...ร่างกายของเขาดุจปุยอย่างเมฆ ไม่อาจรับแรงกระแทกจากผิวดินได้ ท่านผู้นั้นจึงหายไปเหมือนกับฝนที่ตกจากฟ้าและกลายเป็นนํ้า และไม่มีใครเห็นเขาอีกเลย ชายผู้นั้นจึงเล่าเรื่องนี้เป็นบทเรียนแก่ลูกหลานและเป็นนิทานก่อนนอน 

37 บัดนี้ เจเร็ด ก็ได้บันทึกถ้อยคำพระวจนะข้อความของพระองค์จากคำบอกเล่าของนายนิรนาม ที่ได้รับอนุญาตโดยการเปิดเผยจากองค์พระผู้เป็นเจ้า เอโลฮิม ที่พยากรณ์ถึงดินแดนศักดิ์สิทธิ์ อิสราเอลที่จะออกลูกมากมาย และคนที่บังเกิดจากท้องฟ้าจะได้รับการเรียกว่า ชาวสวรรค์ 

38 ยามเที่ยงวัน พ่อพาลูกๆ มาตกปลาและแม่ทำกับข้าวจากที่พ่อที่หามาได้ และทั้งครอบครัวของลูกหลานของเจเร็ด สงสัยในสิ่งที่พ่อได้บันทึก 

39 ท่านจึงเล่าว่า ลูกเอ๋ย...เราเป็นเพียงครอบครัวเล็กๆบนผืนแผ่นดินแห่งบาเบล พระเจ้าทรงเตือนพ่อเพื่อให้พ่อพาทุกคนในครอบครัวได้หนีออกมา พระยาห์เวห์ทรงส่งผู้เผยพระวจนะ ไปแล้วพวกเขากลับยิงธนูใส่ ด้วยใจแห่งความแข็งกระด้างของพวกเขา เมื่อลูกได้เห็น ลูกจะเชื่อ และการที่ลูกจะเชื่อได้เต็มปากเต็มใจ ก็ต่อเมื่อลูกรักษาคำพยากรณ์ตามที่พ่อบอกไว้ โอ้...อิสราเอลทั้งหลายสักวันพวกเขาจะพบแผ่นดินแห่งนี้ เหมือนกับที่พระเจ้าทรงนำพ่อและทุกคนในครอบครัวออกมาจากเมืองบาเบล สิ่งเหล่านี้มันคือการกระทำ และเราต้องรักษาบทบัญญัติ ด้วยคำพยากรณ์ของหนังสือที่พ่อได้จดบันทึกไว้ ดังนั้นแล้ว อิสราเอล จะเป็นเครื่องสังเวย แก่ความบาป และพวกเขาจะเดินตามเรามา และจะเป็นจุดความขัดแย้งของสีผิว และฝ่ายผิวดำเป็นผู้ชนะ และถิ่นอีกาขาวจะบินมาทวงหนี้สินที่ค้างไว้ อย่าคิดมากเลย ชัยชนะจะตกเป็นบุตรแห่งทางวิญญาณและเลือดเนื้อเชื้อไขจะเป็นของแผ่นดินสวรรค์ ดังนั้นเหล่าลูกหลานมากมายของอิสราเอล คือชาวสวรรค์ 

40 บัดนี้พวกเขาจึงร้องเพลงสรรเสริญ ถวายเกียรติแด่องค์พระผู้เป็นเจ้าอย่างมีความสุขกาย สุขใจ และด้วยความปิติยินดีในพระวิญญาณบริสุทธิ์ พร้อมกับครอบครัวและบรรดาเทพทั้งหลายของพระเจ้าในขณะเดินทางทามกลางมหาสมุทร และไม่มีความกังวลในเรื่องความเครียดใดๆ ที่จะทำอะไระวกเขาทั้งหลายได้ 

41 ต่อไปนี้คือ บทเพลงที่พวกเขาใช้สรรเสริญแด่พระเจ้าบนเรือเดินสมุทรในการออกเดินทาง 

42 รวบรวมความฝันเท่าที่มี แล้วออกไปตามหาสิ่งที่ค้นหากันอยู่ วันอีสเตอร์ 

43 เข็มทิศนะเหรอ คือสาเหตุที่ทำให้ชักช้า ล่องลอยไปกับพระวิญญาณแล้วคุมหางเสือด้วยไฟ 

44 แม้จะเป็นทางที่คับแคบในกายก็ตาม หากว่าแน่ใจแล้วล่ะก็ เราก็สามารถเคลื่อนย้ายภูเขาได้เลย 

45 บัดนี้ คํ่าคืนก็ได้มาเยือนในขณะเรืออยู่ท่ามกลางมหาสมุทร และพวกเขาก็ได้เดินทางไปยังตามเข็มทิศแห่งแสงของดวงดาวที่อยู่บนท้องฟ้า เหตุการณ์นี้ก็ได้บังเกิดขึ้นคือ ได้เกิดพายุฟ้าคะนอง และมีคลื่นยักษ์ที่เกิดจากลม เจเร็ด ได้ถามกัปตัน ผู้บังคับกองเรือว่า เกิดอะไรขึ้นนายเจ้าข้า 

46 เสียงเรียกถึง เจเร็ด เจเร็ด นายกัปตันได้สั่งให้ ไปเตรียมก้อนหินจากหีบที่ได้เก็บเชื้อเพลิงไว้เป็นจำนวนมาก ซึ่งเจเร็ดได้ไปหามาและบรรจุใส่ลงในสัมภาระ บรรดาเทพทั้งสี่ตนก็ได้วิงวอนต่อพระเจ้า แทนพวกเขาในขณะที่พวกเขาปฏิบัติงาน 

47 พวกเขาก็ได้เอาเรือดำลงสู่ใต้ผิวนํ้าและให้นางไปปิดประตู พร้อมล็อกกุญแจด้วยพืชไม้ต่างๆ ลักษณะคล้ายๆกับเถาวัลย์ เพื่อป้องกันการรั่วของเรือเพื่อมิให้นํ้าทะเลเข้ามา 

48 พวกเขาทั้งสี่คนและครอบครัวของเจเร็ดต่างก็อยู่ภายใต้ผิวน้ำ เหล่าบรรดาบุตรทั้งหลายลงมาจากบนฟ้า แท้ที่จริงแล้ว มันคือผูัที่เกิดจากพงศ์พันธุ์ของลิลิธ แท้จริงแล้วมันมิได้เกิดจากก้อนน้ำสืบพันธุ์ของบุตรแห่งมนุษย์แต่อย่างใด 

49 เจเร็ดได้ไปนำก้อนหินที่ส่องสว่างมา เพื่อเป็นหลอดไฟในเรือดำน้ำ ทูตสวรรค์ของพระเจ้าก็ตรัสว่า ในฐานะที่ข้าพเจ้าเป็นผู้บังคับกองเรือ เรากำลังเข้าสู่น่านน้ำของสามเหลี่ยมเบอร์มิวด้า และปลายทางของพระเจ้าที่ท่านได้ทรงชี้แนะนำทาง คือ แผ่นดินอินทรีย์ที่พระองค์ทรงสัญญาไว้และจะทำให้พวกท่านทั้งหลาย เป็นชนชาติที่ยิ่งใหญ่ 

50 รุ่งอรุณยามเช้าได้มาถึง เรือก็ได้ลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ ทุกคนก็ออกมาจากห้องโถงใต้เรือและรับประทานอาหารยามเช้า ขอบพระคุณ สรรเสริญพระเจ้า ที่พวกเขาได้รอดจากมรสุมในยาทคํ่าคืนมาได้ พวกเขาร้องเพลง ตามบทที่เขาได้ประพันธ์ไว้ดังนี้

51 พระวิญญาณได้ทรงเปิดชีวิตของใครสักคน

หากคิดมากไปก็ไม่เป็นไร 

52 รวบรวมศรัทธาเท่าที่มีแล้วออกไปตามแผ่นดินภูเขาศิโยน กับพระวิญญาณของพระเจ้า 

51 คุณอยากเป็นเพื่อนกับฉันไหม? เราเป็น เราอยู่บนภูเขาศิโยน! เราเป็น !

52 ถึงจะยอมรับและเชื่อทั้งหมด เทพก็จะผลักเราไปยังเขาไซอัน 

53 หากพบพระเจ้าจะได้รับสิ่งที่เปิดเผย ทั้งเรื่องในชีวิตและเรื่องต่อจากนี้ไป

54 หรือการอยู่ในบททดสอบ เป็นโอกาสดีที่จะได้อ้อนวอนต่ออัลลอฮฺเสมอ จงวางใจ..  

54 พุ่งไปด้วยความศรัทธาสูงสุดผ่านค่ำคืนที่เลวร้ายไป ไม่ได้สนใจอะไรกับโลกแวดล้อม แต่มีองค์พระผู้เป็นเจ้าเฝ้าดูมองเราอยู่ 

55 เหตุการณ์นี้ก็ได้บังเกิดขึ้นคือ ครอบครัวของเจเร็ด และเหล่าผู้นำทางจากพระเจ้าทั้งหลายก็ได้มาถึงแผ่นดินแห่งพันธสัญญาที่พระเจ้าทรงสัญญาไว้ เจเร็ดจึงพาครอบครัวของท่านละหมาด ต่อพระบิดาในสวรรค์ และเทพทั้งสี่ตนก็ละหมาดด้วยเช่นกัน เพื่อวิงวอนต่อพระเยโฮวาห์ พระวาทะองค์ผู้สร้าง 

56 พระองค์จึงอวยพรแก่เจเร็ดว่า พวกท่านทั้งหลายจะเป็นชนชาติที่ยิ่งใหญ่ และจะมีลูกมากมายเต็มในแผ่นดินพยาอินทรีย์ เจ้าจะเพาะปลูกและสร้างอาณาจักรต่างๆ เจ้าจะเป็นมิตรที่ดีแก่เจ้าของผ่านดินแห่งนี้ ตามจริงแล้ว เราพระคริสต์ทรงบอกแก่เจ้าว่า ยังไงลูกหลานของทันก็จะต้องประสงค์เป็นบททดสอบแก่เอโลฮิม พระบิดาของเรา 

57 ดังนั้นแล้ว พวกเขาจึงร้องเพลงสรรเสริญแด่พระเจ้าในสวรรค์ เอ่ยพระนามขอบพระคุณอย่างยิ่งในการเดินทางที่ได้รับความรอดจากพายุในทะเลแห่งสามเหลี่ยมปีศาจ ที่ทำให้เรือของพวกเขาทั้งหลายเกือบถูกการมองเห็น เพราะแผ่นดินนี้ เป็นเส้นขนานระหว่างพงศ์พันธุ์ของเอวาและพงศ์พันธุ์ของลิลิธ และเป็นประตูระหว่างแดนคนตายและคนเป็นที่มีครอบครัวหนึ่งได้สร้างแท่งบูชานี้ไว้ให้กับบุคคลผู้หนึ่งก่อนเกิดนํ้าท่วมโลกครั้งใหญ่ของปลายยุคนํ้าแข็ง ก่อนที่พระองค์ทรงให้แผ่นดินได้ก่อเกิดเป็นทุ่งหญ้า ต้นไม้ ปกปลุมโลกนี้อีกครั้ง 

58 พระยาห์เวห์จึงส่งทูตสวรรค์ทั้งสามไป ก่อนที่พวกเขาจะไปนั้น ท่านก็ได้อำลาแก่เจเร็ด และครอบครัวของท่าน พร้อมกับมอบดาบศักดิ์สิทธิ์ให้ เป็นเครื่องหมายแห่งสัญลักษณ์ของการระลึกถึงสันติภาพที่มีต่อเขาและเหล่าผองทูตสวรรค์ ดังนั้นแล้ว บนเรือไม่ได้มีแค่ครอบครัวของเจเร็ด แต่มีคนต่างถิ่นเขามาอาศัยอยู่ในเรือ เพราะอู้งานจนถูกไล่ออกจากเมืองบาเบล และได้รู้ความลับเข้า เหตุการณ์นี้ก็ได้บังเกิดขึ้น คนเหล่านี้ไม่ได้เป็นภัยอะไรแก่พวกท่าน เขามีบันทึกเหมือนกับเจ้า ดังนั้นแล้วนางจึงขอเอาชายหนุ่มรูปงามคนผิวสีนํ้าเงิน ไปอยู่ด้วยในแผ่นดินสวรรค์ของพระเจ้า ชายคนนั้นก็ตกลงที่จะไปและบอกขอบพระคุณพวกเขา พร้อมกับส่งมอบบันทึกนี้ให้กับเจเร็ด เขามีชื่อว่า สับเทคา บุตรหลานของคานาอัน ผู้ถูกทำให้เป็นทาส และบัดนี้ ชายคนนี้ก็หายไปกับนางเดินทางไปกับพระเจ้าและได้หมั้นกับทูตสวรรค์ของพระเจ้าองค์นี้ 

59 เพราะเป็นคนผิวสีที่แตกต่างจากคนผิวขาว ผิวดำ ผิวเหลือง ห้ามแต่งงานและเป็นคนที่จับต้องไม่ได้ต่อชาวเมืองบาเบล 

60 ครอบครัวของเจเร็ดทั้งหลายต่างก็ตั้งที่พัก อาศัยอยู่ในชนบท และค้าขายกับชาวเอสกิโม ที่อยู่ทางตอนเหนือ และอยู่ด้วยกันอย่างไม่มีพิษภัย พวกเขาทั้งหลายจึงแรกเปลี่ยนวัฒนธรรมและประกาศข่าวประเสริฐแก่พวกเอสกิโม ดินแดนแคนาดา พระเจ้าตรัสกับ กษัตริย์ของชาวเมืองแคนาดาว่า เมื่อถึงเวลาวิวรณ์สัมฤทธิ์ผล พวกท่านจะถูกรับขึ้นไปเหมือนกับเอโนค แม้วิทยาการจะไม่เข้าถึงชาวเมืองของท่านก็ตาม เพราะความลับแก่แผ่นดินสวรรค์เราจะให้ใครมิได้ เมื่อสิ่งนั้นสำเร็จในบันทึก 

61 บัดนี้ ครอบครัวของเจเร็ด ก็นมัสการ ร้องเพลงสรรเสริญ อธิษฐานแด่องค์พระผู้เป็นเจ้า ถวายเครื่องบูชาด้วยขนมปังไร้เชื้อ และนํ้าองุ่นจากไร่ที่ดินของลูกหลานท่าน โดยร่วมโต๊ะกันระหว่างกษัตริย์ของชนเผ่าเอสกิโม จนท่านได้สวรรคต และบุตรหลานของท่านหนึ่งในเจเร็ดก็รับช่วงต่อ และชาวเอสกิโมก็ถูกใจกษัตริย์องค์นี้ พระองค์ทรงมีพระราชทานขยายอาณาเขตไปยังเขตอบอุ่น เพื่อชีวิตที่ยังยืนและความสุขของประชาชนในแผ่นดินทั้งสองฝั่งของทะเลและแผ่นดินส่วนกลาง เป็นต้น 

1 เราคือ พระวิญญาณ และผู้ปกครองเทพนับไม่ถ้วน เราจะดูแลการทรงสร้าง กฎแรงโน้มถ่วงต่างๆ ในการทรงสร้างของพระเจ้า เรามีบริวาร พลังงานที่มีชีวิตได้รับการถ่ายทอดจากสวรรค์นับไม่ถ้วนที่คอยรับใช้อยู่เคียงข้างเรา เรามีความคล้ายครึ่งกับเทพผู้ปราศจากเนื้อหนัง เป็นพระเจ้าสูงสุดหนึ่งในพระบิดาและพระบุตร ไม่มีจุดเริ่มต้นและจุดจบ 

2 เราดูแลการสร้างอยู่เหนือน่านนํ้า ปกคลุมเมฆฝน คอยฉายแสงแดด คลายอากาศถ่ายเท่ให้กับทุกชีวิตบนโลก และดูแลวิสุทธิชนทุกคน 

3 เรามาที่โลกแล้วก่อนที่ท่านจะลงมา เมื่อเราลงมาหลังจากพระบุตรเสด็จกลับสู่สวรรค์ โลกปฏิเสธเรา เหตุว่าเราได้มอบของประทานให้กับอัครสาวกของพระเยซูคริสต์ โดยผ่านคนกลางระหว่างเราคือพระเยซู และโลกก็จะปฏิเสธท่าน แต่ยังถูกควบคุมด้วยกฎแห่งเสรีภาพระหว่างจอมมารและมนุษย์ 

4 ท่านทั้งหลายที่เข้าพิธีรับบริจาค ผู้คนเหล่านั้นกับท่านคือทูตสวรรค์ ดังนั้น มนุษย์ต้องพึ่งพาพระเจ้า อยู่ภายใต้การปกครองของเทพ เหล่าชาวสวรรค์ต้องพึ่งพามนุษย์และอยู่ภายใต้การดูแลของพระวิญญาณบริสุทธิ์นั่นคือเรา ดังนั้นทุกสรรพสิ่งจึงอยู่ภายใต้การปกครองของพระเจ้า เอลโลฮิม 

5 เราพระวิญญาณทรงทำงานอยู่กับ ลม อากาศ ทุ่งหญ้า ต้นไม้ สภาพอากาศ ดินทราย ท้องฟ้า เมฆ แม่น้ำ ทะเลสาบ นํ้าฝน แสงแดด แสงจากอวกาศ เสียงจากธรรมชาติ ฟ้าร้อง สายฟ้า ไฟ สีสันท้องฟ้า และความรู้สึก เป็นต้น 

6 เราพระเจ้าพระวิญญาณ ได้ส่งเทพทั้งหลายของเราไปเยี่ยมบรรดาผู้ที่หัวใจแตกหักจากมนุษย์ทุกเพศ เพราะผู้ที่มีค่าควรถูกเขาทรยศหักหลังและคบชู้กับผู้คนที่มีผิวสีหัวใจเทาๆ ดังนั้น้หล่าเทพของเราจึงปลอบประโลมโดยการมีเพศสัมพันธ์กับวิสุทธิชนผู้ที่มีค่าควรในความฝัน เมืองบรมสุขเกษมอย่างชื่นชม เมื่อถึงเวลาฟื้นคืนชีวิตในวันที่พระเยซูคริสต์มาปกครองโลกนี้อีก เราพระวิญญาณจะพาไปหาบุตรธิดาที่พระบิดาได้ทรงจัดเตรียมไว้ให้ เอเมน 

7 เราพระวิญญาณผู้เป็นเจ้าของบุตรธิดา หากเขามีความโอหังแก่คุณ และใช้อำนาจดูบ้าบิ่นกับท่านจนหัวใจแตกสลาย เราพระผู้เป็นเจ้า จะส่งกษัตริย์ในรัศมีภาพ ผู้ที่รักษาสถานภาพไว้เฉพาะคนของเรา เเละเราจะส่งเทพผู้วิเศษไปให้กับท่านทั้งหลาย 

8 เราผู้เป็นเจ้า พระวิญญาณเมื่อถึงวันที่ก่อนพระบุตรจะลงมา เราจะทำลายผู้คนที่มีหัวใจสีเทาภายใต้เนื้อหนังธรรมชาติของการให้กำเนิดจากอาดัม บุตรหลานของคาอินผิวหัวใจสีดำ และผู้ปกครองแห่งน่านฟ้าจะโดนติดคุก นางลิลิขจะถูกล่ามโซ่ไว้กับคู่แท้ของมัน และคนที่สมสู่กับนางจะถูกโยนลงในบึงไฟนรก 

9 ชายทั้งหลายจะแต่งงานแบบ พหุสมรส เมื่อฟื้นคืนชีพแห่งการรับรัศมีภาพของพระบิดา หญิงทั้งหลายจะกลายเป็นเทพธิดา อยู่ภายใต้การปกครองของพระวิญญาณ และบรรดาพวกเธอจะถูกยกให้กับชายที่มีค่าควร ตามความปราศถนาการงานของชายคนนั้น ตามที่เราพระเจ้าจะเป็นผู้กำหนดเมื่อท่านสวดอ้อนต่อพระบิดาและมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดติดสนิทกับเรา ทั้งพระบิดาและพระเยซูคริสต์ ตามความเข้มแข็งของความศรัทธาที่ท่านได้หวังไว้ เพราะมันเป็นดังนั้น เอเมน